'ผอ.สวพ.ทบ.' ร้องกองปราบ พบพิรุธโครงการกากป้องกันสารพิษ

'ผอ.สวพ.ทบ.' ร้องกองปราบ พบพิรุธโครงการกากป้องกันสารพิษ

ผอ.สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก ร้องทุกข์พนักงานสอบสวนกองปราบ ตรวจสอบ โครงการพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษ วงเงิน 3.8 ล้านบาท หลังพบข้อพิรุธในการออกใบรับรองมาตรฐาน

เมื่อ‪เวลา 11.30 น.วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 ที่กองปราบ พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อสมบูรณ์ ผอ.สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์ขอให้ทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง โครงการพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษ วงเงินงบประมาณการดำเนินโครงการ 3.8 ล้านบาท หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นพบข้อพิรุธในการออกใบรับรองมาตรฐานงานวิจัยดังกล่าว โดยนำเอกสารและข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้องมามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณา

พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินโครงการนี้ทางกองทัพบกได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) โดยในส่วนของนักวิจัยที่ร่วมโครงการมีด้วยกัน 5 คน เป็นนายทหารสังกัดกองทัพบก 2 นาย ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1.เพื่อวิจัยและพัฒนาในการออกแบบและผลิตหน้ากากป้องกันสารเคมี-ชีวภาพ ให้สามารถใช้งานได้จริง โดยผ่านมาตรฐานสากล 2.สร้างต้นแบบเครื่องกรองอากาศ และ 3.เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนารูปแบบเครื่องกรองอากาศที่รองรับเทคโนโลยีของหน้ากากในอนาคต

พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวด้วยว่า โครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการศึกษาวิจัยนับตั้งแต่ปี 2560 มีกำหนดระยะเวลา 1 ปีครึ่ง ซึ่งที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการได้ติดตามตรวจสอบการดำเนินการศึกษาวิจัยมาตลอด ซึ่งทางโครงการส่งเสริมการใช้ยางพาราของหน่วยงานภาครัฐ ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 แล้ว โดยหากการวิจัยเสร็จสิ้น ก็จะถึงขั้นตอนการผลิตหน้ากากด้วยวัตถุดิบที่เป็นยางพารา จำนวน 50,000 ชิ้น วงเงินงบประมาณ 150 ล้านบาท แต่ระหว่างที่มีการตรวจสอบกระบวนการวิจัยกลับปรากฏพบความไม่สมบูรณ์ของเอกสารซึ่งจะมีผลต่อการดำเนินการโครงการในขั้นตอนต่อไป

“ใบรับรองที่มีการอ้างอิงในงานวิจัยจะมีผลต่อคุณภาพและมาตรฐาน เพราะกองทัพต้องการผลงานที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน โดยความผิดปกติของเอกสารที่พบนั้นมีหลายส่วน เช่น การได้รับการรับรองและยืนยันมานั้นถูกต้องหรือไม่ ตรงไหนที่ยังไม่ชัดเจนก็ต้องทำให้ชัดเจนเพราะมีผลต่อคุณภาพของงานวิจัย ตัวอย่าง เช่น สินค้าที่ผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ก็ถือว่ามีการรับรองที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน คนที่นำไปใช้ก็จะได้รับความปลอดภัย” พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าว

ผอ.สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กล่าวอีกว่า ใบรับรองมีความจำเป็นอยู่แล้วในงานวิจัย หน้าที่ในการตรวจสอบเป็นเรื่องที่เราดำเนินการและมีขั้นตอนที่ทำมาโดยตลอด ถ้าได้มาตรฐานจริงถูกต้องตามที่อ้างอิงก็นำไปสู่ขั้นตอนการผลิตได้ แต่ขณะนี้เมื่อพบความผิดปกติก็ต้องมีการตรวจสอบ ส่วนกลุ่มนักวิจัยที่ดำเนินโครงการทั้งหมดจะเกี่ยวข้องอย่างไรบ้างหรือเข้าข่ายกระทำการใดที่เป็นความผิดหรือไม่ คงเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน บก.ป.ในการดำเนินการตรวจสอบต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.ธงชัย กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.เสวก บุญจันทร์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้อง โดยจะตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงต่างๆ ของโครงการดังกล่าวก่อน จึงจะสามารถพิจารณาได้ว่าเข้าข่ายเป็นความผิดอาญาข้อหาใดหรือไม่ อย่างไร ส่วนการพิจารณาเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำก็คงต้องดำเนินการหลังจากนี้