รักล่ม! ด.ต.ซึมเศร้า ส่งไลน์สั่งเสียอำลาเพื่อนร่วมงาน ก่อนยิงตัวดับ

รักล่ม! ด.ต.ซึมเศร้า ส่งไลน์สั่งเสียอำลาเพื่อนร่วมงาน ก่อนยิงตัวดับ

ดาบตำรวจเลิกเมีย ป่วยโรคซึมเศร้า ส่งไลน์สั่งเสียอำลาเพื่อนร่วมงาน ก่อนใช้อาวุธปืนประจำกายระเบิดสมองยิงตัวตาย

เมื่อวันที่ 8 ก.พ.61 เวลา 08.00 น. ร.ต.อ.ไกรนาท แสงมณี รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุ ด.ต.สุพล แสงสิงห์ อายุ 45 ปี ผบ.หมู่ งานธุรการ สภ.บางน้ำเปรี้ยว ใช้อาวุธปืนยิงตนเองเสียชีวิตภายในบ้านพักส่วนตัว จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนเดินทางไปสอบสวน

ที่เกิดเหตุพบร่างของ ด.ต.สุพล นอนถืออาวุธปืนประจำกายแบบลูกโม่ด้วยมือขวา ขนาด .357 แนบติดอยู่ที่หน้าอก ภายในลูกโม่พบกระสุนบรรจุอยู่เต็ม 6 นัด ถูกยิงออกไปแล้ว 1 นัด นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงภายในห้องนอนด้านในของตัวบ้าน และไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย ที่ขมับขวามีรูกระสุนขนาดเดียวกันเจาะทะลุศีรษะ เลือดไหลนองเปื้อนที่นอน

จากการสอบถามเพื่อนร่วมงาน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 07.00 น.เศษ ผู้เสียชีวิตได้ส่งข้อความผ่านทางโปรแกรมแชท (ไลน์) เข้าไปหา ด.ต.ดำเนิน สีลุน เพื่อนร่วมงานที่ปลูกสร้างบ้านรั้วติดกันในลักษณะสั่งเสีย ว่า “ช่วยเป็นธุระให้หน่อยนะพี่เนิน อยู่ไปก็ไม่มีความสุข ปัญหาสุขภาพรุมเร้า เบอร์โทรญาติพี่น้องอยู่บนโต๊ะ จัดการเรื่องเงินฌาปนกิจให้ด้วยนะพี่ ขอบคุณครับพี่” จากนั้น ด.ต.ดำเนิน จึงได้โทรศัพท์แจ้งรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนที่จะพากันเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านพัก จนพบว่า ด.ต.สุพล ใช้อาวุธปืนยิงตนเองเสียชีวิตไปก่อนหน้าแล้ว

โดยปกติแล้ว ด.ต.สุพล เป็นตำรวจที่มีนิสัยร่าเริง พูดคุยสนุกสนานกับเพื่อนร่วมงาน แต่ภายหลังจากที่ได้เลิกราแยกทางกับภรรยาที่เป็นพยาบาลอยู่ รพ.ประจำอำเภอ เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ ด.ต.สุพล เปลี่ยนไปเป็นคนละคน และตกอยู่ในอาการซึมเศร้า ไม่พูดไม่จา เก็บตัวนิ่งเงียบเฉย ไม่สนุกสนานร่าเริงเฮฮาเหมือนเดิมกับใครอีกเลย โดยใช้ชีวิตแบบคนไร้จุดหมาย และอยู่ไปวันๆ แบบคนไม่มีความสุข ที่เช้าขึ้นตื่นมาก็เดินทางมาทำงาน และพอเลิกงานในตอนเย็นก็เดินทางกลับบ้านพัก และอาศัยอยู่เพียงลำพัง ส่วนบุตรชาย ฝ่ายภรรยาพาไปอยู่ด้วย ในชีวิตจึงไม่เหลือใครจนกลายเป็นคนป่วยด้วยโรคซึมเศร้า

พ.ต.อ.สมนึก หาญตา ผกก. สภ.บางน้ำเปรี้ยว ซึ่งเดินทางมายังที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ด.ต.สุพล ได้สั่งเสียคนรอบข้าง เพื่อนร่วมงานเอาไว้หมดแล้ว เกี่ยวกับโรคซึมเศร้าที่เป็นอยู่ ที่ผ่านมาก็เคยได้ยินผู้ตายบ่นถึงเรื่องปัญหาครอบครัวให้ได้ยินอยู่บ่อยครั้ง ส่วนปัญหาในเรื่องของการทำงานนั้นไม่มีแน่นอน โดยเมื่อก่อนหน้านี้ ด.ต.สุพล เคยทำหน้าที่เป็นจราจร จากนั้นตนได้ให้มาทำหน้าที่เป็นพลขับรถ แต่เมื่อเห็นสุขภาพทางด้านจิตใจไม่ค่อยดีจึงได้พยายามแนะนำให้ไปพบแพทย์ และให้มาทำหน้าที่เป็นเสมียนธุรการประจำวัน

ส่วนในเรื่องครอบครัวนั้น ผู้ตายมีครอบครัวแต่เป็นครอบครัวที่หย่าร้าง โดยมีบุตรชาย 1 คน ที่ทางฝ่ายภรรยาพาไปอยู่ด้วย ซึ่งขณะนี้บุตรชายกำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นอุดมศึกษาปีที่หนึ่ง มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ และต้องไปอยู่หอพัก แต่ในวันหยุดบางครั้งบุตรชายก็จะเข้ามานอนเป็นเพื่อนบ้าง ที่ผ่านมาเคยมาขออนุญาตไปทำการรักษาอาการโรคซึมเศร้า ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก และยังเคยบอกด้วยว่าหากรักษาไม่หายก็จะทำร้ายตนเอง สุดท้ายก็ตัดสินใจทำจริงๆ โดยผู้ตายนั้นไม่ได้มีเรื่องชู้สาว หรือมีภรรยาใหม่ ส่วนทางฝ่ายภรรยานั้นไม่ทราบว่ามีใครมาเกี่ยวข้องติดพันหรือไม่ แต่ยังไม่เคยได้ยินข่าวว่ามีสามีใหม่เช่นเดียวกัน