'พิชัย' ลั่นความมั่นใจทรุด ความนิยมรัฐบาลดิ่งเหว

'พิชัย' ลั่นความมั่นใจทรุด ความนิยมรัฐบาลดิ่งเหว

"พิชัย" สวน "สมคิด" ยันความมั่นใจนักลงทุนทรุด-ความนิยมรัฐบาลดิ่งเหว จี้คืนเวลาความสุข หวั่นประชาชนตายหมด

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน กล่าวว่า ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ได้ออกมาบอกว่าความมั่นใจของนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นคาดปีนี้จะมียอดขอส่งเสริม 720,000 ล้านบาท ซึ่งก็ยังต่ำกว่าก่อนปฏิวัติที่มียอดขอบีโอไอมากกว่า 1.1 ล้านล้านบาทมาก และยอดการลงทุนจริงก็ยิ่งน้อยมาก เช่นในปีที่แล้วมียอดขอบีโอไอเพียง 6.4 แสนล้านบาท และมีลงทุนจริงเพียง 2.8 แสนล้านบาทเท่านั้น แม้ตนเห็นด้วยกับนายสมคิดว่าความมั่นใจเป็นเรื่องสำคัญ

ทั้งนี้อยากถามนายสมคิดว่า ความมั่นใจของนักลงทุนจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อองค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรท์วอทช์ ยังตำหนิรัฐบาลไทยในการละเมิดสิทธิมนุษยชนในหลายด้าน แล้วรัฐบาลยังจะมาดำเนินคดีกับ กลุ่ม MBK 39 Start up peoples ที่ออกมาเรียกร้องกำหนดการเลือกตั้งตามที่นายกได้เคยประกาศไว้เอง และ กลุ่มอาจารย์ we walk ที่ออกมาเดินเพื่อเรียกร้องประโยชน์ให้ประชาชน ก็ยิ่งจะตอกย้ำการละเมิดสิทธิมนุษยชนเพิ่มขึ้น ทั้งที่มีรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว

นอกจากนี้ ดัชนีเสรีภาพในการเลือกตั้งทั่วโลก ปี 2018 จัดประเทศไทยอยู่อันดับรั้งท้าย 3 อันดับ จาก 198 ประเทศ ซึ่งต่ำกว่าเกาหลีเหนือและจีนเสียอีก และสื่อใหญ่สหรัฐ เดอะ อิโคโนมิสต์ จัดไทยเป็นประเทศปนเผด็จการ และไทยยังจะทำท่าไม่ยอมรับอันดับที่องค์กรความโปร่งใสสากลที่จัดอันดับไทยหล่นมาอยู่ที่ 101 และน่าจะลดลงอีกในปีนี้ ปัจจัยเหล่านี้มีความสำคัญต่อความมั่นใจของนักลงทุน และความมั่นใจจะยิ่งทรุดลงตามความนิยมของรัฐบาลที่กำลังตกต่ำแบบดิ่งเหว

อย่างไรก็ตามจากทุกโพลสำรวจ การที่พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาถามประชาชนจะอยู่แบบนี้หรือจะอยู่แบบเก่า ก็อยากให้ประชาชนเลือกว่าปัจจุบันมีความสุขมากกว่าในอดีตหรือไม่ ลำบากถึงอยากให้มีการเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งหลังการเลือกตั้งก็คงไม่มีทางที่จะแย่ไปกว่าที่เป็นอยู่นี้แล้วใช่หรือไม่ คสช. ขอยืมเวลาไปเกินแล้ว ก่อนที่จะตายกันหมดแล้วยังไม่ได้ความสุขคืน