จี้ 'รมว.ทรัพยากรฯ' แสดงจุดยืน กรณี 'เปรมชัย' ชี้พฤติการณ์ชัดเจน

จี้ 'รมว.ทรัพยากรฯ' แสดงจุดยืน กรณี 'เปรมชัย' ชี้พฤติการณ์ชัดเจน

"เพื่อไทย" จี้ "รมว.ทรัพยากรฯ" แสดงจุดยืน กรณี "เปรมชัย" ชี้พฤติการณ์ชัดเจน หวั่นกระทบไซเตส

นายศักดา นพสิทธิ์ อดีตเลขานุการรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลตรวจค้นบ้านพักพบอาวุธปืน งาช้าง ที่มีไว้ครอบครองจำนวน ว่า จากกรณีนายเปรมชัยและคณะเข้าไปในป่า เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปจับพบซากเสื้อดำ และสัตว์อื่นๆอีกจำนวนมาก ต่อมาตำรวจขยายผลค้นบ้านพัก พบปืนไรเฟิล งาช้างจำนวนมาก พฤติการณ์กรณีนี้ให้ว่าไปตามข้อเท็จจริง ในฐานะเคยทำงานกระทรวงทรัพย์ฯหน้าที่ของกระทรวงคือ ต้องปกป้อง รักษาทรัพยากรธรรมชาติ

ทั้งนี้อยากให้พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แสดงท่าที 1.ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เขารักษาพันธุ์สัตว์ป่า 2.ในฐานะรมว.ทรัพย์ฯควรแสดงท่าที ทัศนคติการบริหารงานให้ชัดเจน สอดคล้องกับประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ ไม่ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติเท่านั้น หากรมว.ทรัพย์ฯวางกรอบ แนวทางทางนโยบายการบริหารชัดเจนจะเป็นการสร้างกำลังใจให้เจ้าหน้าที่มากกว่านี้

เมื่อถามว่ากรณีนี้มั่นใจหรือไม่ว่า กระบวนการสุดท้ายจะมีการเอาผิดทางกฎหมายกับนายเปรมชัยได้จริง นายศักดา กล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหาหากจะต่อสู้เป็นสิทธิของเขา แต่พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างชัดเจนใครไปทำอะไร การพบซากสัตว์ป่าจำนวนมาก รวมทั้งการพบปืน มีดแร่เนื้อ พลั่วสนาม และอุปกรณ์อื่นๆที่นำเข้าไปในพื้นที่ ถือว่ามีเจตนาชัดเจนในการจงใจเข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม แม้รูปการณ์จะออกมาเขาจะต่อสู้ไม่ได้ยิงสัตว์เอง คนอื่นยิง ถึงอย่างไรถือว่าได้ร่วมกัน มีการแบ่งหน้าที่ร่วมกันทำ ร่วมกันล่าหรือไม่ ตรงนี้เป็นไปตามหลักกฎหาย

นอกจากนี้จากการขยายผลของตำรวจในการตรวจค้นบ้านพักนายเปรมชัย พบงาช้าง ปืนอีกจำนวนมาก ตามอนุสัญญาไซเตส ตามที่ประเทศไทยเป็นภาคีด้วยนั้น เรื่องงาช้างมีข้อกำหนดระบุชัด ไม่ให้ครอบครองโดยเสรี หากจะครอบครองต้องมีการขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง เพื่อแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยไม่ได้สนับสนุนการล่า การกักกัน ทารุณกรรมสัตว์ป่าที่อยู่ในบัญชีเป็นสัตว์สงวนหรือสัตว์ใกล้สูญพันธ์
อย่างไรก็ตามเข้าใจว่า รมว.คงรู้อยู่แล้ว แม้เรื่องจะเกิดในประเทศไทย แต่ในยุคสมัยข่าวสารไปอย่างรวดเร็ว เชื่อว่าทั่วโลกก็คงรับรู้ข่าวนี้เช่นกัน ประเทศภาคีที่เราได้ไปลงนามในอนุสัญญาไซเตสด้วย อาจหันมามอง จึงอยากให้รมว.แสดงท่าทีออกมาให้ชัดเจนว่าคิดเห็น วางแนวทาง วางนโยบายต่อเรื่องนี้ไว้ว่าอย่างไร