หนุ่มชวดหวย 12 ล. เข้ารับทราบข้อกล่าวหา หลังพ่อเด็กแจ้งเอาผิด

(7 ก.พ.61) จากกรณีที่นายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง หรือปื๊ด อายุ 31 ปี หนุ่มชาว ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.นางรอง เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2560 ที่ผ่านมา ว่าถูกขโมยสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 715431 จำนวน 2 ใบ ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 ส.ค. 2560 ได้เงินรางวัล 12 ล้านบาท โดยสงสัยว่าเยาวชนอายุ 14 ปีเป็นคนขโมย ต่อมาได้มีสองสามีภรรยาชาว จ.ร้อยเอ็ด นำลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลชุดเดียวกันไปขึ้นเงินที่กองสลากฯ โดยทั้งสองยืนยันว่าเป็นผู้ถูกลอตเตอรี่เช่นเดียวกัน แต่ถูก 3 ใบไม่ใช่ 2 ใบ ได้เงินรางวัล 18 ล้านบาท จนกลายเป็นคดีหวยอลวนอยู่หลายเดือน

กระทั่งเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2560 ตำรวจ สภ.นางรอง ได้มีการแถลงปิดคดี โดยการนำหลักฐานผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ดีเอ็นเอ.บนลอตเตอรี่ชุดดังกล่าว มาแถลงต่อหน้าคู่กรณีทั้งสองฝ่าย โดยผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์พบเป็นลายนิ้วของสองสามีภรรยาชาวร้อยเอ็ด ที่เป็นเจ้าของลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลตัวจริง ซึ่งทางหนุ่มบุรีรัมย์ที่เข้าแจ้งความว่าลอตเตอรี่หายก็ยอมรับในผลตรวจ พร้อมทั้งได้มีการกล่าวขอโทษและยกมือไหว้สองสามีภรรยา ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็ไม่ติดใจเอาเรื่องซึ่งกันและกัน ซึ่งเหมือนว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดี

แต่ต่อมานายจำลอง เป้าชุมแสง พ่อของเด็กชาย วัย 14 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขโมยลอตเตอรี่ 12 ล้านบาท มาจากบ้านนายพันธุ์ศักดิ์ พร้อมทนายความก็ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.นางรอง ให้เอาผิดกับนายพันธ์ศักดิ์ ฐานแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท เนื่องจากลูกชายถูกกล่าวหาเป็นคนขโมยลอตเตอรี่ ทั้งส่งผลกระทบทำให้เสื่อมเสียมาถึงครอบครัวถูกตราหน้าว่าเป็นคนขโมยลอตเตอรี่ด้วย จึงอยากให้ดำเนินการตามกฎหมาย

กระทั่งล่าสุดวานนี้ (6 ก.พ.61) นายพันธ์ศักดิ์ ที่ถูกพ่อเด็กวัย 14 แจ้งความกลับ ก็ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับ พ.ต.ท.จักรภัทร ชมภูกุล พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง เจ้าของคดี ในข้อหา “แจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาท” ตามที่พ่อของเด็ก 14 ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ แต่นายพันธ์ศักดิ์ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยบอกเพียงว่าที่มาแจ้งความก็เพราะลอตเตอรี่หายไปจริง และได้ข้อมูลกับตำรวจไปตามลำดับเหตุการณ์เท่านั้นไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวหาพาดพิงใคร

ทางด้านพนักงานสอบสวนก็จะได้รวบรวมพยานหลักฐาน และสรุปสำนวนส่งอัยการตามขั้นตอน โดยคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งอัยการได้ในวันที่ 22 ก.พ.ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตามระหว่างที่มีการสอบสวนอยู่ ทั้งฝ่ายผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหา ก็สามารถมาให้ข้อมูลหรือนำหลักฐานมาเพิ่มเติมได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะดำเนินการตามกระบวนการอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย