ปูนบำเหน็จ5ขั้น4ชั้นยศ เป็น'พล.ต.ต.'ถูกยิงดับขณะระงับเหตุ

ปูนบำเหน็จ5ขั้น4ชั้นยศ เป็น'พล.ต.ต.'ถูกยิงดับขณะระงับเหตุ

ปูนบำเหน็จ 5 ขั้น 4 ชั้นยศ "ร.ต.อ.อิสรพงษ์" เป็น "พล.ต.ต." ถูกหนุ่มเมายิงดับขณะเข้าระงับเหตุ

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาม ถูกคนร้ายเมาสุรา ใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตว่า ได้รับรายงานจาก สภ.หนองขามว่า เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 เวลาประมาณ 17.00 น. ทางศูนย์วิทยุ สภ.หนองขาม ได้รับแจ้งมีเหตุต้องสงสัยเป็นชายมีอาวุธปืน บริเวณร้านค้า เลขที่ 207/275 ม.11 ตลาดต่อศักดิ์ ม.11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงได้แจ้งให้ทางสายตรวจรถจักรยานยนต์ และร้อยเวรป้อนกันปราบปราม เข้าไประงับเหตุ พร้อมชุดป้องกันปรามปรามพิเศษ สภ.หนองขาม เมื่อไปถึงพบชายดังกล่าวมีอาการในลักษณะมึนเมา จึงได้แสดงตัวเป็นหน้าที่ตำรวจ และเข้าควบคุมตัว แต่ชายดังกล่าวได้ใช้กำลังชกต่อย ตำรวจนอกเครื่องแบบทั้งสองนาย เมื่อชายคนดังกล่าวสู้ไม่ได้ จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ นายศุภสิทธิ์ หม่องเลี้ยง (อาสาตำรวจ) ที่บริเวณหน้าท้อง ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ ร.ต.อ.อิสรพงษ์ กุลจินดา เดินเข้าไประงับเหตุ ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณด้านหลังใต้หัวไหล่ใต้ ทำให้ ร.ต.อ.อิสรพงษ์ กุลจินดา ล้มลงและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง ฯ

​จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาม ได้ระดมกำลังปิดล้อม และเกลี่ยกล่อมให้ผู้ต้องหาวางอาวุธปืน จนผู้ต้องหายอมมอบตัวและอาวุธปืน จำนวน 3 กระบอก ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือนาย นิรุตต์ หรือ หนึ่ง จิตมั่น อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายผู้ต้องหาเบื้องต้นพบว่า มีสารเมทแอมเฟตามีน , เคตามีน อยู่ในร่างกายและยังพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย 67 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โดยจะดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาตรวจหาสารเสพติดโดยละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลแหลมฉบังฯ

เบื้องต้นผู้ต้องหามีความผิดฐาน “ฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ , พยายามฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการที่เจ้าพนักงานนั้นกระทำการตามหน้าที่ฯ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันจำเป็นเร่งด่วนฯและยิงปืนในที่สาธารณะ”

รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น เพราะถือว่าเป็นตำรวจน้ำดี ที่ตั้งใจทำงาน ต้องมาเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ สั่งให้ดูแลสวัสดิการและช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสียอย่างเต็มที่ เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตจะได้รับความชอบพิเศษ 5 ขั้น 4 ชั้นยศ เลื่อนจาก ร.ต.อ. เป็น พล.ต.ต. และญาติจะได้รับเงินกองทุนสวัสดิการตำรวจและเงินบำเน็จตกทอดช่วยเหลือกว่า 1,900,000 บาท พร้อมกันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะบรรจุทายาทของข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ให้ได้เข้ารับราชการตำรวจ จำนวน 1 ราย