กลต.สหรัฐ-เฟดหนุนออกกม.คุมเข้มบิทคอยน์

นายเจย์ เคลย์ตัน ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (กลต.) ส่งสัญญาณว่า กลต.และคณะกรรมาธิการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ (ซีเอฟทีซี) รวมทั้งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะขอให้สภาคองเกรสออกกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจในการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิทคอยน์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

นายเคลย์ตัน กล่าวระหว่างการเข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ว่า กลต.และซีเอฟทีซี กำลังร่วมมือกับเฟด และกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการควบคุมสกุลเงินดิจิทัล คำพูดของนายเคลย์ตันถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐกำลังเตรียมออกกฎหมายเพื่อควบคุมการซื้อขาย และการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล

มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกวูบหายไปมากกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือน ท่ามกลางความกังวลต่อปัจจัยลบหลากหลายประการที่ถาโถมเข้าสู่ตลาด

ทั้งนี้ มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 8.3569 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ตามข้อมูลของคอยน์มาร์เก็จดอทคอม ซึ่งรวบรวมราคาสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 1,000 สกุลจากตลาดซื้อขายทั่วโลก แต่มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลร่วงแตะระดับ 2.7853 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 5.5716 แสนล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ บิทคอยน์ร่วงลงแตะระดับ 5,947.40 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยเป็นการปรับตัวลงมากกว่า 50% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ และดิ่งลง 70% เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในกลางเดือนธ.ค.ใกล้ระดับ 20,000 ดอลลาร์

มูลค่าตลาดของบิทคอยน์ลดลงมากกว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันนี้ สู่ระดับ 1.06 แสนล้านดอลลาร์ และร่วงลง 2.335 แสนล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดลดลงสู่ 2.824 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.ปีที่แล้ว

ส่วนอีเธอเรียม และริพเพิลทรุดตัวลง 60% และ 80% ตามลำดับเมื่อเทียบกับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

การทรุดตัวของสกุลเงินดิจิทัลเกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการคุมเข้มของรัฐบาลหลายประเทศ การที่แฮกเกอร์โจรกรรมเงินดิจิทัล ข่าวการปั่นค่าเงินบิทคอยน์ของแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแห่งหนึ่ง รวมทั้งการที่ธนาคารหลายแห่งประกาศไม่ให้ลูกค้าใช้บัตรเครดิตของธนาคารในการซื้อสกุลเงินดิจิทัล