รุดตรวจที่เกิดเหตุ นักเรียน ป.5 วิ่งรอบสนามเป็นลมดับ

รุดตรวจที่เกิดเหตุ นักเรียน ป.5 วิ่งรอบสนามเป็นลมดับ

"ปวีณา" พาพ่อ "น้องเนิร์ต" พบตำรวจขอความเป็นธรรม หลังถูกทำโทษวิ่งรอบสนามจนเสียชีวิต ด้าน รองปลัด กทม. ระบุพบไวรัสไข้หวัดใหญ่ในโพรงจมูก

จากกรณีที่นายณัฐพล วัชรมณเฑียร บิดา ด.ญ.ภัทราพร หรือน้องเนิร์ต อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง สังกัด กทม. ย่านทุ่งครุ เดินทางมายังมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เลขที่ 84/14 หมู่ 2 ถนนรังสิต-นครนายก (คลอง 7) ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ ขอความเป็นธรรมให้กับบุตรสาว เนื่องมาจากลูกสาวได้เรียนวิชาพลศึกษา แล้วมีนักเรียนชายในชั้นเล่นกัน ทำให้ครูสั่งให้ลูกสาวและนักเรียนทั้งห้องวิ่งรอบสนาม จำนวน 4 รอบ ท่ามกลางอากาศร้อนจัด จนทำให้ลูกสาวเป็นลมล้มลงกับพื้น ก่อนที่เพื่อนจะช่วยนำส่งห้องพยาบาลของโรงเรียน และภายหลังได้เสียชีวิตลง ในวันที่ 23 ม.ค. ทั้งนี้ศพได้ส่งชันสูตรที่แผนกนิติเวช รพ.ศิริราช ซึ่งต้องรอผลชันสูตรอีก 45 วัน แต่ทางผู้ปกครองยังคาใจโรงเรียนไม่ยอมแจ้งผู้ปกครองและพาเด็กส่งโรงพยาบาล ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ที่สน.ทุ่งครุ เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 6 ก.พ.2561 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้พานายณัฐพล วัชรมณเฑียร บิดาน้องเนิร์ต เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พ.ต.อ สรุเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ทุ่งครุ เพื่อให้ความเป็นธรรมทางด้านคดี หลังเกิดเหตุยังไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบช่วยเหลือแต่อย่างใด โดยมีนายพิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมรับเรื่องด้วย

นางปวีณา เปิดเผยว่า ภายหลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนมา ทางครอบครัวน้องเนิร์ตอยากจะทราบว่าน้องเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด เนื่องด้วยวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 11.00 น.ครูได้สั่งให้นักเรียนไปวิ่ง ทำให้น้องไม่สบาย จึงนำไปรักษาที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน โดยมีอาสาพยาบาลดูแล จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ทางครูได้โทรศัพท์ให้ครอบครัวไปรับตัวลูก และนำตัวเด็กไปโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยทางครอบครัวไม่สบายใจ ต้องการทราบข้อเท็จจริง ซึ่งทางมูลนิธิได้ประสานกับทาง พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตลอดจนทาง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร โดยต้องขอบคุณทาง ผบก.น.8 ที่ท่านได้ใส่ใจเป็นอย่างมากในการเร่งดำเนินการให้ทันที

“ซึ่งวันนี้เรามาประชุม ไม่ได้ตั้งใจที่จะมาจับผิด แต่เรามาช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องสูญเสียขึ้น น้องอาจเติบโตไปเป็นบุคคลากรที่สำคัญของชาติในอนาคตได้ แต่ต้องมาเกิดความสูญเสียขึ้นก่อน โดยหลังจากนี้เราต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง หาข้อบกพร่อง ช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น ซึ่งทาง บก.น.9 ได้ตั้งคณะชุดสืบสวนสอบสวน เพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว ส่วนทางกรุงเทพมหานครได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับทางโรงเรียนอีกด้วย” นางปวีณา กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจต้องรอผลชันสูตรจากทาง รพ.ศิริราช อย่างเป็นทางการ ทำให้ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ ซึ่งต้องขอเวลาให้ทางตำรวจทำงานก่อน ทั้งนี้ทางตำรวจให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สำหรับพยานหลักฐาน จะเน้นหนักในพยานบุคคล รวมทั้งผลของหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนจะใช้ดุลยพินิจในการชั่งน้ำหนักอีกครั้งตามขั้นตอน ทั้งนี้ระหว่างรอผลชันสูตรประมาณ 45 วันนี้ ทางคณะพนักงานสอบสวนต้องดำเนินการลงพื้นที่สอบปากคำพยาน ตรวจสอบที่เกิดเหตุว่าวันเวลาที่เกิดเหตุเป็นอย่างไร

ขณะที่ นายพิชญา นาควัชระ รองปลัด กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ กรุงเทพมหานครได้รับรายงานจากโรงเรียนต้นสังกัด และข้อมูลทางการแพทย์จากโรงพยาบาลตากสิน ระบุว่า เบื้องต้นตรวจพบไวรัสอินฟลูเอนซ่า บี หรือไว้รัสไข้หวัดใหญ่ ในโพรงจมูกของน้องเนิร์ต อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่เด็กจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว อาจเกิดจากอาการแทรกซ้อน 2 กรณี คือ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสพเฉียบพลัน และอาการชักเกร็งจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ รวมถึงอาการลมแดดร่วม ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ส่งผลให้เชื้อหวัดเข้าสู่กระแสเลือด เป็นเหตุให้เสียชีวิต ทั้งนี้ต้องรอผลชันสูตรโดยละเอียดจากภาควิชานิติเวชศาสตร์ ศิริราชพยาบาล อีกครั้ง ซึ่งจะทราบผลภายใน 45 วัน นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับให้หาช่องทางเยียวยากับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเร่งด่วนต่อไป นอกจากนี้จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ในวันเกิดเหตุครูได้ให้วิ่งรอบสนามกีฬา รอบละ 110 เมตร

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน นางปวีณา พร้อมนายณัฐพล พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ และนายพิชญา ได้เดินทางลงพื้นที่ภายในสนามกีฬาเอนกประสงค์ โรงเรียนวัดทุ่งครุ ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตทุ่งครุ กทม. เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุว่าจุดเกิดเหตุเป็นอย่างไร โดยทางนายณัฐพล ได้นำชุดทำงานไปชี้ยังจุดที่ “น้องเนิร์ต” วิ่งจนล้มลง จากนั้นได้นำไปยังที่ห้องพยาบาล ของโรงเรียนก่อนเจ้าตัวนำตัวลูกสาวไปส่งที่โรงพยาบาล

โดยนายณัฐพล กล่าวว่า ตนได้รับสายโทรศัพท์จากโรงเรียน ว่าลูกไม่สบาย จึงรีบเดินทางไปรับ เมื่อตอนไปรับลูกสาวที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน มีอาการหายใจแรง ตัวสั่น พูดไม่ได้ ทำได้เพียงพยักหน้ากับส่ายหน้าเท่านั้น จึงตัดสินใจรีบส่งโรงพยาบาล ระหว่างทางรถติดหนักจึงตัดสินใจขึ้นรถจักรยานยนตร์ แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็ไม่ทันการณ์เพราะน้องได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ขอยืนยันว่าลูกสาวแข็งแรงดี ไม่เคยมีโรคประจำตัว และยังทำกิจกรรมเป็นประจำอีกด้วย