รมช.กห.ตรวจกปช.จต.พื้นที่จันทบุรี-ตราด ปฏิบัติการชายแดนไทย-กัมพูชา

เมื่อ 5 ก.พ.61 พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห. ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.และ รมว.กห.ในการลงพื้นที่ตรวจราชการหน่วย ฉก.นย.182 และจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด , ชุดควบคุมทหารพรานที่ 4 และจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานและตรวจเยี่ยมการทำงานของข้าราชการที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งได้รับทราบถึงภารกิจ พื้นที่ในความรับผิดชอบตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ด้านความสัมพันธ์ในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่ของไทยและกัมพูชา

ทั้งนี้ รมช.กห.ได้กล่าวชื่นชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานและทุกระดับในพื้นที่ที่บูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดียิ่ง อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อน และความเห็นที่ไม่ตรงกันในการเปิดจุดผ่านแดนถาวร ยังเป็นปัญหาที่สำคัญที่ต้องอาศัยกลไกในระดับสูง รวมถึงมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องในการแก้ไข นอกจากนี้ รมช.กห. ยังรับทราบปัญหาของประชาชนในพื้นที่ เช่น การขาดแคลนที่ดินทำกิน ผลกระทบจากคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการ โดยจะได้นำเสนอที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาต่อไป

ในโอกาสนี้ รมช.กห. ได้นำนโยบายของ นรม.และข้อกำชับสั่งการของ รอง นรม. และ รมว.กห. เพื่อให้หน่วยถือปฏิบัติ โดยให้หน่วยในกำกับดูแลของ กปช.จต. สนับสนุนการดำเนินงานภายใต้โครงการ “ไทยนิยม ยั่งยืน” ของรัฐบาล ในทุกระดับ ด้วยการจัดชุดวิทยากรสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสัญญาประชาคมให้แก่ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการดำรงชีพด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และใช้กลไกในระดับพื้นที่และระดับภูมิภาคในการเจรจาแก้ไขปัญหาความไม่ชัดเจนของเส้นเขตแดน โดยสันติวิธีให้ยุติโดยเร็ว ให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้บังคับบัญชาในการทำกิจกรรมร่วมกันกับหน่วยทหารของกัมพูชา เพื่อสร้างบรรยากาศความเป็นมิตรและกระชับสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ

มุ่งเน้นการป้องกันบริเวณชายแดน ด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมถึงสกัดกั้นการลักลอบนำสินค้าผิดกฎหมายข้ามแดน โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยให้ถือเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจน

จัดเตรียมกำลังพลพร้อมเครื่องมือให้พร้อมในการแก้ปัญหาตลอดเวลา เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาเดือดร้อนหรือได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยต่างๆ รวมถึงประชาชนชาวกัมพูชา ตามขีดความสามารถของหน่วย และสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนตามนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ภายใต้กรอบการปฏิบัติงานด้านความมั่นคง