พบซากเรืออับปางจมก้นทะเลนานนับ 100 ปี ใต้ทะเลระยอง

พบซากเรืออับปางจมก้นทะเลนานนับ 100 ปี ใต้ทะเลระยอง

นักดำน้ำพบซากเรืออับปางจมก้นทะเลนานนับ 100 ปี ใต้ทะเลระยอง วอนรัฐกู้ซากเรือกลไฟอาถรรพ์

จากกระแสข่าวว่า มีนักดำน้ำในพื้นที่ ริมแม่น้ำประแสร์ ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง ที่มีการกล่าวถึงการพบเรือสมบัติอยู่ใต้ทะเลระยอง ในพิกัดระหว่างเกาะมันนอกต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง หรือ ที่ชาวประมงเรียกกันมาตั้งแต่โบราณว่า จุดกองหินเมย์ หลังข่าวแพร่กระจายออกไป ทำให้บรรดานักดำน้ำต่างฮือฮา พากันลงไปสำรวจในบริเวณดังกล่าวตามคำร่ำลือ แต่ ส่วนใหญ่ไม่พบ เพราะไม่มีการเปิดเผยจุดพิกัดที่แน่นอน ประกอบกับน้ำลึกถึง 20 ม.จึงทำให้นักดำน้ำที่ไม่ผ่านการฝึกดำน้ำลึกลงไปไม่ถึงจุดดังกล่าว

นายอนุรักษ์ ดีนานประธานสภาเทศบาลตำบลเนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง เมื่อสอบถามถึงเรือสมบัติที่มีการลือกัน ก็บอกว่าเป็นเรื่องจริง พร้อมทั้งพาไปพบกับนักดำน้ำในพื้นที่ ที่เป็นคนค้นพบเรือสมบัติตามที่ร่ำลือกัน ซึ่งนักดำน้ำคนดังกล่าว คือนายวิเชียร สิงโตทอง อายุ 57 ปี นักดำน้ำมือฉมังของพื้นที่ ที่รีสอร์ทรินธารา ริมแม่น้ำประแสร์ เมื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว ก็ยืนยันว่าเป็นความจริง พร้อมทั้งนำภาพสะเก็ตท์รูปร่างเรือมาแสดงพร้อมกับเหรียญกษาปณ์ยุค ร.5 ตอนปลาย และยุค ร.6 ตอนต้น ระบุปี พ.ศ.2459 และตังค์รู ที่อ้างว่าเก็บได้จากบริเวณตัวเรือที่พบ เมื่อครั้งแรกที่ลงไปดำหาปลาลำพังคนเดียว เมื่อ 25 ปีก่อน

เมื่อปี พ.ศ.2555 นายเปรม วัชรางกูร หัวหน้าโบราณคดีใต้น้ำค่ายเนินวง กรมศิลปากร จ.จันทบุรี ได้พาคณะครูและนักศึกษาเกี่ยวกับโบราณคดีใต้น้ำมาขอความร่วมมือจากตน ให้ช่วยหาสถานที่ฝึกดำน้ำลึกประมาณ 20 เมตร จึงนึกขึ้นได้ว่าจุดที่เคยพบซากเรือโบราณ มีความลึกประมาณ 20 ม.จึงพากันลงไปดำ ซึ่งนักศึกษาต่างก็ตื่นตะลึงกับเรือลำดังกล่าว แต่ก็ไม่มีใครเข้าใกล้ แต่มีนักศึกษาคนหนึ่งเข้าไปในตัวเรือ แต่ก็รีบออกมา พร้อมกับแสดงท่าบอกว่าต้องการขึ้นผิวน้ำจึงรีบพาขึ้น เมื่อสอบถามก็บอกด้วยอาการปากคอสั่น หวาดกลัวอย่างรุนแรงหลังตั้งสติ ได้เล่าว่า เจอภาพคนกำลังนั่งกันอยู่ในเรือแล้วก็หายไปต่อหน้า

ต่อมาทางนายเปรม วัชรางกูร หัวหน้ากลุ่มโบราณคดีค่ายเนินวง กรมศิลปากร จ.จันทบุรี และครูฝึกดำน้ำชื่อว่า ครูบิลลี่ ได้มาปรึกษากับตนว่าต้องการลงไปสำรวจ เรือโบราณ ซึ่งทางตนก็แนะนำว่าต้องทำพิธีขอขมาก่อน หลังทำพิธีบนเรือ บอกกล่าวว่า หากสิ่งไหนที่ต้องการให้ข้าพเจ้าทั้งสองนำขึ้นมา ก็ขอให้เห็น หากไม่ต้องการให้ก็อย่าปรากฎให้เห็น แล้วก็ดำน้ำลงไปทันที ดำลงไปถึงตัวเรือก็เริ่มทำการตรวจสอบเรือ โดยการวัดตัวเรือ ยาว 41.20 ม. กว้าง 6.5 ม.สำรวจในเรือพบว่าเป็นเรือกลไฟ เพราะมีเครื่องกลอยู่ในเรือ และยังพบกองฟืนหนึ่งกอง พอใช้มือปัดทราย ก็ต้องตะลึง เพราะเหรียญเงินลอยกระจายขึ้นมามากมาย จึงช่วยกันเก็บใส่ถุง ได้มากกว่าหนึ่งพันเหรียญ เป็นเหรียญยุค ร.5 ตอนปลาย และยุคร.6 ตอนต้น

ด้านหน้าเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 อีกด้านเป็นรูปช้างสามเศียร และตราแผ่นดิน และ ยังมีสตางค์รูรวมอยู่ด้วย พอค้นหาต่อไป พบกับกระดุมเสื้อคาดเป็นของกัปตันเรือ ซึ่งเป็นกระดุมทองคำ จำนวนหนึ่ง หวูดเรือทำจากทองเหลือง ขอบหน้าต่างเรือฉลุจากทองเหลือง และ ขอบโต๊ะทองเหลือง รวมถึงเครื่องปั้นดินเผา ทั้งถ้วยชามอีกจำนวนหนึ่ง จึงคาดว่าเรือดังกล่าวต้องเป็นของคหบดีในยุคนั้น และเป็นเรือของคนไทย ภายในห้องใต้ท้องเรือได้ถูกทรายทับถมอยู่ จึงไม้กล้าลงไปในห้องใต้ท้องเรือ เพราะกลัวจะถล่มมาทับตอนที่เข้าไป จึงรีบนำของที่พบขึ้นมา และ นำไปส่งมอบให้กับ พิพิธภัณฑ์กลุ่มโบราณคดีค่ายเนินวง จ.จันทบุรี และก็ไม่ได้ดำน้ำลงไปยังจุดซากเรืออีกเลย

นายวิเชียร กล่าวต่อมา จากการที่ตนเองมาเปิดเผย ก็เพื่อต้องการให้นำเรือลำดังกล่าวขึ้นมา เพื่อเอาไว้ในพื้นที่ประแสร์ เพื่อเปิดให้ชมเกี่ยวกับเรือโบราณในยุคร้อยปีที่ผ่านมา และกลัวว่าอาจจะเกิดความเสียหายจากการกัดกร่อนของน้ำทะเล ถ้าปล่อยไว้นานอาจจะไม่เหลืออะไรเลย และ กลัวนักดำน้ำหาสมบัติลงไปเจอของมีค่าอาจจะถูกเ รัฐนำเรือขึ้นมา ตนเองอาสาพาลงไปยังจุดเรือลำดังกล่าว

นายนพดล แสงวิลัย หนึ่งในนักดำน้ำ กล่าวว่า ตนเองเคยดำลงไปจริง และพบเหรียญรัชกาลที่5เก็บได้จากซากเรือจม และเตรียมจะลงไปสำรวจอีกครั้งพร้อมเจ้าหน้าที่ในเร็วๆวันนี้