"ศรีวราห์" ยันยึดหลักกม.-บังคับใช้เท่าเทียม สั่งผัดฟ้องฝากขังกลุ่มผู้ชุมนุม 39 ราย พร้อมแจ้งข้อหา“บก.ลายจุด-วีระ” ยุยงปลุกปั่น
ที่สน.ปทุมวัน ต่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ เปิดเผยภายหลังเข้ามาตรวจดูสำนวนกรณีกลุ่มเคลื่อนไหวสกายวอล์ค 39 คน ขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวันว่า ตามที่ออกหมายเรียกผู้ต้องหาไป39 ราย ได้ขอเลื่อนจำนวน 34 ราย ที่แจ้งสาเหตุและขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหา ส่วนอีก 5 รายที่เป็นแกนนำไม่ได้แจ้งสาเหตุและไม่ได้มาขอเลื่อน ซึ่งปกติก็จะออกหมายเรียก 2 ครั้ง ตามป.วิอาญาการสอบสวนให้กระทำการเวลาใดที่ใดก็ได้แต่ไม่ชักช้า ตนมองว่าก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร โดยตนได้สั่งการให้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้มาพบพนักงานสอบสวนวันที่ 8 ก.พ.61 นี้ ก็ให้โรงพักท้องที่ดำเนินการส่งหมากเรียกตามป.วิอาญา
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามตามกฎหมายสามารถทำได้ 2 อย่าง คือปล่อยตัวไปโดยไม่มีหลักประกัน และส่งผัดฟ้องฝากขัง ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้ผัดฟ้องฝากขัง ยืนยันว่าปฏิบัติโดยยึดหลักกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งทางพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้กำชับมาให้ปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน การแสดงความคิดเห็นสามารถกระทำได้มีช่องทางแสดงความคิดเห็นตามกฎหมาย อยากชุมนุมก็ต้องไปขออนุญาตการชุมนุมในที่สาธารณะให้ถูกต้องตามขั้นตอนทั้งการแจ้งโรงพัก และขออนุญาตฝ่ายความมั่นคง ตาคำสั่งคสช.ที่ 3 ให้ทราบและอนุญาตมา ส่วนที่ผู้ชุมนุมอ้างว่าถูกผลักดันให้เข้าไปอยู่ในรัศมี 150 เมตร เขตพระราชฐานนั้น ได้รับการยืนยันจากผู้อำนวยการเขตปทุมวันว่า มีการตรวจสอบแล้วยืนยันเป็นที่สาธารณะและอยู่ในเขตพระราชฐาน 150 เมตร อย่างไรก็ตามการรวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ถนนราชดำเนิน ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องทำหนังสือขออนุญาตสถานีตำรวจในพื้นที่ และ ฝ่ายความมั่นคงด้วย หากได้รับอนุญาตก็สามารถชุมนุมได้ แต่ยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
เมื่อถามว่าจะมีการขยายผลไปถึงบุคคลอื่นอีก 66 คนทางพล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ทางตำรวจสันติบาลกำลังดูอยู่ว่าอีก 66 คนตามภาพคือใคร อยู่ที่ไหน ซึ่งทั้ง 66 คนก็เหมือนผู้ที่ถูกกล่าวหาไปคือมาร่วมชุมนุม ไม่ใช่ประชาชนที่มาใช้เส้นทาง นอกจากนี้ให้แจ้งข้อหามาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น กับนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด และนายวีระ สมความคิด เพราะมีหลักฐานชัดเจนตามภาพในการขึ้นปราศรัยในวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา
ส่วนความคืบหน้าที่สน.พระราชวัง พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ให้ติดตามว่ามีใครบ้างที่มาร่วมชุมนุม ก็ให้ดำเนินการเหมือนกันกับที่สน.ปทุมวัน ตามมาตรา 7 พ.ร.บ.ชุมนุม และตามคำสั่งคมช.ที่ 3 แต่ที่สน.พระราชวังไม่มีข้อหายุยงปลุกปั่น เพราะการมาให้กำลังก็เข้านิยามของการเมืองเช่นกัน ซึ่งสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้แล้ว 1-2 ราย ก็ได้ออกหมายเรียกแล้ว
ส่วนกรณีงานฟุตบอลประเพณี ระหว่าง จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 ณ สนามศุภชลาศัยกรีฑาสถานแห่งชาตินี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกด้วยว่า ตำรวจมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตามปกติ และคอยอำนวยความสะดวกเรื่องการจราจร ตนได้สั่งกำชับผกก.สน.ปทุมวันให้บังคับใช้กฎหมาย 100% อย่าให้มีการทำผิดกฎหมาย
ขณะที่พล.ต.อ.ศรีวราห์ เดินทางมาถึง มีกลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนขึ้นมาว่า ประเทศนี้เป็นของใคร ทำไมไม่หันมามองหน้าประชาชน ประชาชนจะเดินเล่นไม่ได้เลยหรือ ซึ่งพล.ต.อ.ศรีวราห์ปฏิเสธในกรณีนี้ว่าไม่ได้ยิน
ด้านน.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความ กล่าวว่า ในความรู้สึกส่วนตัวเห็นว่าตำรวจประวิงเวลาในการพิจารณาคำร้องของกลุ่มผุ้ชุมนุมที่ขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาและปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ถูกออกหมายเรียกเพราะคดีเป็นข้อหาที่มีอัตราโทษต่ำ ควรได้รับการปล่อยตัว ทั้งนี้ตำรวจจะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 โดยให้ทีมทนายความนำหมายเรียกส่งให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมถือว่าไม่ใช่หน้าที่ของทนายความจึงขอปฎิเสธไป
“ยื่นหนังสือไปแล้ว ตำรวจจะทำอย่างไรต่อ จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 หรืออกหมายจับเลยหรือไม่ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน” น.ส.ภาวิณี ระบุ