ชาวบ้านผวา! พบลูกจระเข้ในขุมน้ำเหมืองเก่า ที่ภูเก็ต

ชาวบ้านผวา! พบลูกจระเข้ในขุมน้ำเหมืองเก่า ที่ภูเก็ต

สองหนุ่มช่างไม้วางอวนดักปลาในขุมน้ำเหมืองเก่า จ.ภูเก็ต ผงะมีลูกจระเข้ติดมาด้วย เผยมีชาวบ้านพบอีก 1 -2 ตัว

เมื่อวันที่ 2 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า มีคนงานก่อสร้างจับลูกจระเข้ได้จากขุมน้ำเหมืองเก่า ภายในซอยนากก-เข้งหงวน หมู่ที่ 5 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ตทราบว่านำมาไว้ที่บ้านเลขที่69/110 ซอยนากก-เข้งหงวน หมู่ที่ 5 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เพื่อรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรับไปตรวจสอบเมื่อไปถึงพบชาวบ้านกำลังมุงดูลูกจระเข้ ซึ่งถูกนำมาขังไว้ในถังใส่สีทาบ้าน ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นลูกจระเข้ที่มีความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร แม้จะเป็นลูกจระเข้ แต่มีนิสัยค่อนข้างดุ จะกระโดดเข้ากัดทุกครั้งเมื่อชาวบ้านเอามือหรือไม้เข้าไปใกล้ๆ ตัว สภาพภายนอกมีความสมบูรณ์ ไม่มีร่องร่อยบาดเจ็บหรือถูกทำร้าย ระหว่างนั้นได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ตมารับตัวลูกจระเข้ดังกล่าวไปไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 (ภูเก็ต) บ้านพารา ม.4 ต.ป่าคลอก อ.ถลางชั่วคราว เพื่อตรวจสอบว่าเป็นจระเข้สายพันธุ์ใด รวมทั้งจะได้มีการจัดเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบบริเวณดังกล่าวด้วยว่ายังคงมีจระเข้อยู่อีกหรือไม่

สอบถามทราบว่า นายสุชาตรี อะโนมา อายุ 37 ปี และนายพันศักดิ์ จันทะวัง อายุ 39 ปี อาชีพช่างรับเหมา เป็นผู้ตกจระเข้มาจากขุมน้ำ (ขุมเหมืองเก่า) เข้งหงวน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักไปประมาณ 200 เมตร มาได้ เมื่อคืนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากทั้งคู่ได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านเมื่อคืนวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมาว่า เห็นมีจระเข้อยู่ในขุมน้ำ จึงได้พากันไปตรวจสอบ และพบว่าเป็นจระเข้จริง แต่เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันพระใหญ่จึงไม่กล้าจับ และไปทำการจับมาเมื่อคืนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นายสุชาตรี เล่าว่า ที่ผ่านมาได้ไปวางอวนและเบ็ดตกปลาในขุมน้ำดังกล่าวเป็นประจำแต่ไม่เคยเจอจระเข้มาก่อนเลย กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ได้ไปวางอวนตามปกติ และได้มีเพื่อนบ้านมาบอกว่าเห็นจระเข้อยู่บนเนินเล็กๆ ในขุมน้ำดังกล่าวให้ช่วยไปดูหน่อย จึงให้นายพันธ์ศักดิ์ฯ ไปดูเบื้องต้น และพบว่าเป็นจระเข้จริง เนื่องจากเห็นตาเป็นสีแดง แต่เนื่องจากเป็นวันพระใหญ่ประกอบกับมีฝนตกจึงไม่ได้ทำอะไร กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ไปตรวจสอบอีกครั้ง และพบว่าจระเข้ยังอยู่ จึงได้ใช้ตาเบ็ด 3 ตา ผูกติดกัน และเหวี่ยงไปยังจุดที่จระเข้อยู่ก่อนที่จะลากมาขึ้นฝั่งนำมาใส่ถังน้ำไว้ ก่อนแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ รวมทั้งอยากให้มาตรวจสอบบริเวณขุมน้ำดังกล่าวว่าจะมีจระเข้อีกหรือไม่ เนื่องจากบริเวณนี้จะมีเด็กๆ ลงไปเล่นน้ำ และมีชาวบ้านมาหาปลาเป็นประจำ เกรงว่าจะเป็นอันตรายได้

ด้านนายพันศักดิ์ กล่าวว่า ตัวเองมีหน้าที่ในการส่องไฟไปยังตัวจระเข้ เหตุที่มั่นใจว่าเป็นจระเข้เพราะมีตาสีแดงต่างจากตัววรนุช เท่าที่จับปลาอยู่ในบริเวณนี้ตั้งแต่ปี 2547 ก็ไม่เคยพบเห็นจระเข้มาก่อน และสอบถามชาวบ้านก็ไม่เคยมีใครเห็น แต่หลังจากที่พบลูกจระเข้ตัวนี้แล้ว ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบมีจระเข้อยู่ในขุมน้ำฝั่งตรงข้ามด้วย ซึ่งคืนนี้ (2 ก.พ.) ตนจะได้ไปตรวจสอบว่ามีจริงหรือไม่ เพราะขณะนี้ชาวบ้านเริ่มมีความกังวลและไม่สบายใจ เนื่องจากจะมีเด็กๆ ไปเล่นน้ำอยู่ประจำ และขอให้เจ้าหน้าที่มาช่วยตรวจสอบด้วยว่า จระเข้ดังกล่าวมาได้อย่างไร
ขณะที่นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับทราบการเจอลูกจระเข้ในขุมน้ำดังกล่าว ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบเบื้องต้นว่า เป็นจระเข้ขนาดความยาวประมาณ50เซนติเมตร คาดว่ามีอายุประมาณ1ปีแต่ยังไม่เคยมีใครเคยพบเจอพ่อ - แม่พันธุ์ ของจระเข้ ดูจากลักษณะเบื้องต้น เป็นจระเข้น้ำจืดโดยเจ้าหน้าที่ฯ ได้นำไปพักไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต5 (ภูเก็ต) ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ตามระเบียบกรมประมง เพื่อรอการตรวจสอบข้อมูลประจำตัวจระเข้อย่างละเอียดจากนักวิชาการ เกี่ยวกับ เพศ สายพันธุ์ ความยาว อายุการฝั่งไมโครชิพ และดี เอ็น เอ เพื่อสืบค้นแหล่งที่มา

ทั้งนี้ จากข้อมูลการเลี้ยงจระเข้ที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต ในบริเวณดังกล่าวโดยรอบขุมน้ำ และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงไม่มีฟาร์มเลี้ยงจระเข้โดยสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ตได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ เพื่อหาข้อมูลแหล่งที่มาที่ชัดเจน และเฝ้าระวังพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของประชาชนต่อไป