สุดรันทด! ลูก 3 คนป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง

สุดรันทด! ลูก 3 คนป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง

สุดรันทด! แม่ตัดอ้อยเลี้ยงลูก 3 คนทยอยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง วอนสังคมช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของ เบล พลาพล เอี่ยมละออ ที่ได้แชร์เรื่องราวของครอบครัวของเด็กพิการ 3 คน จากนางฟ้าซาลอน ในเพจจิปาถะ จึงได้เดินทางไปที่บ้านพักชั้นเดียว บ้านนาไร่เดียว เลขที่ 193/1 หมู่ 13 ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร พบกับนางสาวเดือน ทัศจรรย์ อายุ 38 ปี กำลังดูแลลูกชาย 2 คน สภาพร่างกายซูบผอม หนังหุ้มกระดูก แขนขา งอเกร็ง ผิดรูปทรง เคลื่อนไหวไม่ได้ ทั้งคู่
นอกจากนี้ ลูกชายคนเล็กอยู่ข้างๆ ก็เริ่มป่วยด้วยอาการเดียวกันรวมทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย ลูกพิการคนโต อายุ 18 ปี ชื่อน้องออฟ ลูกพิการ คนที่ 2 อายุ 16 ปี ชื่อน้องวุ่น ลูกพิการคนที่ 3 ชื่อน้อง ฟิล์ม อายุ 11 ปี

นางเดือน ทัศจันทร์ เล่าว่ามีบุตรด้วยกันทั้งหมด 3 คน ส่วนสามีเลิกรากันไปนานแล้ว ลูกคนโตอายุ 18 ปี คนที่ 2 อายุ 16 ปี และคนที่ 3 อายุ 11 ปี คนโตหลังจากที่เกิดมาอายุ 5 ขวบมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เริ่มเดินไม่ได้ ต่อมาคนที่ 2 ก็มีอาการเดียวกัน เคยพาไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถีและโรงพยาบาลศิริราช ด้วยฐานะที่ยากจน ประกอบกับการเดินเป็นไปด้วยความลำบากก็หยุดรักษา เนื่องจากทราบว่า โรคนี้เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด จึงเลี้ยงลูกตามลำพัง โดยอาศัยบ้านของของน้องสาวพักอาศัย

ต่อมาเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาลูกคนเล็กซึ่งเดินเหินได้ปกติก็มีอาการเดียวกัน คือตอนนี้ลุกขึ้นเดินไม่ได้แล้ว ได้แต่คืบคลานเคลื่อนไหว แต่ยังนั่งได้อยู่ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก แต่ติดขัดเนื่องจากว่าเด็กมีอาการฟันผุต้องรักษาฟันที่จังหวัดกำแพงเพชรให้หายเสียก่อน ปัจจุบันเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร

ด้านการดูแลก็ป้อนข้าวป้อนน้ำ แล้วก็เปลี่ยนแพมเพิส และได้รับคำแนะนำจากสาธารณสุขให้ดูแลเรื่องความสะอาด เพื่อป้องกันการเป็นแผลกดทับ ทำกายภาพบำบัด อาหารที่ผู้ป่วยโปรดปรานก็คือแกงจืด หมูผัดกระเพรา ทานได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป แต่จะยุ่งยากเรื่องระบบการขับถ่าย ที่จะมีอาการท้องอืด เด็กทั้งสามสามารถสื่อสารตอบโต้รับรู้ได้ตามปกติ แม่ของผู้ป่วยมีอาชีพรับจ้าง ตัดอ้อย ทั่วไป แต่ก็ไปรับจ้างไกลไม่ได้ เพราะต้องคอย กลับมาป้อน ข้าว ป้อน น้ำ ให้ลูกๆ ส่วนอาหารที่ผู้ป่วยโปรดปรานก็คือแกงจืดหมูผัดกระเพรา ซึ่งสามารถรับประทานได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไปแต่จะยุ่งยากเรื่องระบบการขับถ่าย

นางสาวชนากานต์ คำรอด พยาบาลวิชาชีพประจำสถานีอนามัยตำบลวังแขม เปิดเผยว่า เริ่มดูแลเด็กตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งพบว่าเด็กอยู่ในภาวะต้องการความช่วยเหลือ ได้ประสานกับทางโรงพยาบาลคลองขลุง ดำเนินการทางด้านกายภาพ มีแพทย์ มีนักโภชนาการ เข้ามาตรวจเยี่ยมดูแล ซึ่งตอนที่พบผู้ป่วยพี่น้อง 2 คนแรกพบว่า มีภาวะที่เป็นหนักมากยากต่อการรักษาแล้ว ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่ยากต่อการรักษาให้หายขาดได้ จึงต้องประคับประคอง อาการของโรคเกิดน้อยที่สุด ส่วนคนเล็กที่พบคือก่อนหน้ายังเดินได้ แต่มีปัญหาเรื่องเดินแล้วล้มง่าย เราก็ได้ติดต่อประสานงานเพื่อส่งต่อรักษาล่า สุดน้องจะต้องได้รับการทำฟันก่อนเพื่อที่จะไปรักษาโรงพยาบาลนเรศวรจังหวัดพิษณุโลก โดยแม่มีอาชีพรับจ้างไม่สะดวกที่จะพาไป ในเรื่องของค่าใช้จ่ายด้วย ทางเราก็พยายามหาแหล่งช่วยเหลือ เคยมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็ช่วยเหลือไปบ้าง

ส่วนการรักษายังโรงพยาบาล 2 แห่งตามที่แม่เด็กได้บอกไว้ คือโรงพยาบาลราชวิถีและโรงพยาบาลศิริราช ไม่สามารถที่จะตรวจสอบพบประวัติ รายการรักษาได้ ส่วนแม่ที่ขาดการนำตัวลูกไปรักษาเนื่องจากเข้าใจได้ว่าลูกโลกนี้รักษาแล้วไม่หาย แม่ไม่พาไปรักษาต่อเนื่อง โดยเข้าใจว่าเป็นแล้วไม่หาย มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางรักษาต้องใช้จำนวนเงินสูง

ขณะที่น้องคนเล็กที่กำลังเริ่มป่วย ก็พยายามจะให้การช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับครอบครัวเด็กด้วย โรงพยาบาลนเรศวรจังหวัดพิษณุโลกอยู่ใกล้ และมีเทคโนโลยีที่คิดว่าจะรักษาเขาได้มากกว่าโรงพยาบาลในจังหวัดหรือโรงพยาบาลอำเภอ ขณะนี้ต้องรอรักษาฟันก่อน ซึ่งขณะนี้มีการประสานงานกับโรงพยาบาลคลองขลุงเพื่อทำฟันให้กับน้องแล้ว

ด้านนายชัยวัฒน์ พันธ์วิทยากูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังแขมเปิดเผยว่า กรณีผู้พิการครอบครัวนี้ในส่วนขององค์การบริหารส่วนตำบลวังแขมเราได้มีโครงการเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจถึงบ้านทุกๆปี ตามโครงการ 3 วัยใส่ใจชุมชน เข้ามาให้กำลังใจต่อครอบครัวผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ผู้พิการ และผู้ยากไร้ รวมถึงผู้สูงอายุใน 1 ปี จะมีภาคส่วน ขององค์การบริหารส่วนตำบลวังแขม สาธารณสุขและพัฒนาสังคมความมั่นคงของมนุษย์ เข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำต่อการดูแลรักษา

ทั้งนี้ อาการของเด็กเริ่มต้นจากแรกเกิดมาก็สมบูรณ์แข็งแรงเป็นปกติแต่หลังจากคนโตเริ่มอายุได้ 5 ขวบก็เริ่มมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและคนน้องอายุ 16 ปี ก็เป็นลักษณะเช่นเดียวกัน และสภาพปัจจุบันน้องคนที่ 3 เคยไปเรียนที่โรงเรียนอนุบาล อบต.วังแขม ก็เริ่มมีอาการป่วยไม่ต่างกับพี่ทั้งสองคนที่ผ่านมา และขณะนี้เดินเองไม่ได้
ในส่วนกองการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม โดยองค์การบริหารส่วนตำบลวังแขม และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสถานีอนามัยวังแขม ได้ลงมาดูแลอย่างต่อเนื่อง และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาดูแลกันอย่างใกล้ชิด

ท้ายสุดจากการเปิดเผยของแม่เด็กทั้งสามคนบอกว่า ปัจจุบันมีฐานะยากจน และมีอาชีพรับจ้างใกล้บ้านและคอยดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำ เปลี่ยนแพมเพิส ให้กับบุตรทั้งสองคน ส่วนคนสุดท้องก็เริ่มมีอาการป่วย รู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก บ้านพักก็ต้องอาศัยบ้านของน้องสาวอยู่อาศัย จึงมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก สิ่งที่ต้องการที่จะดูแลลูกให้ดีกว่านี้ อยากมีบ้านเป็นที่อาศัยของตัวเองเพื่อที่จะได้ดูแลลูกทั้งสามคนได้เต็มที่ และได้ดีกว่านี้ จึงได้ฝากบอกเมตตากับสังคมได้ช่วยเหลือกับครอบครัวสักครั้งหนึ่ง ด้วยการเมตตาโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาคลองขลุง ชื่อบัญชี เด็กชายปรมัต แสงจันทร์ โดยนางสาวเดือน ทัศจรรย์ หรือรุ่งสุริยา ชนะศิล นายวรวุฒิ ตุ่มมะสียา เลขที่บัญชี 62-1-0 -463 08-8

อย่างไรก็ตาม การดูแลบัญชีในการเบิกจ่ายเพื่อครอบครัวของผู้พิการในครั้งนี้มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 2 คนร่วมเป็นผู้ตัดสินใจในการเบิกจ่ายเงินในบัญชีเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคในครั้งนี้