รวบสาวตีเนียนเป็นลูกค้าใจบุญ อ้างซื้อของจำนวนมาก ให้ซ้อนท้ายไปเอาภาชนะมาใส่ของแล้วปล่อยลงกลางทางย้อนกลับไปขโมยทรัพย์สินเอาไปจำนำ
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2561 พ.ต.อ.จรัสพัฒน์ สุตยสรณาคม รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น นายฉัตรชัย อุ่นเจริญ นายอำเภอเมืองขอนแก่น พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี หน.กกล.รส.จว.ขอนแก่น และชุดจับกุม แถลงข่าวจับกุมนางอุ๊ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 256 หมู่ 6 ต.เมืองเก่า อ.เมือง ขอนแก่น พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์สกูปปี้สีเขียวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนซึ่งเป็นรถใช้ขับขี่ก่อเหตุ โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง โน้ตบุ๊ค 2 เครื่อง แทปเล็ต 1 เครื่อง ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคืนได้จากร้านที่นางอุ๊นำเอาไปจำนำที่จังหวัดมหาสารคาม
พ.ต.อ.จรัสพัฒน์ กล่าวว่า มีประชาชนที่มีอาชีพค้าขาย ทั้งนักเรียน นักศึกษา คนแก่ หลายรายถูกคนร้ายลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย หลอกให้ออกจากร้าน จากบ้านพักแล้ววกกลับมาขโมยทรัพย์สิน โดยคนร้ายเป็นหญิง อายุประมาณ 30-35 ปี ผมยาวหยิก สูงประมาณ 150-155 เซนติเมตร ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าสกูปปี้ สีเขียวขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีทั้งการใช้อุบายหลอกซื้อสินค้าหรือหลอกว่าจะย้ายเข้ามาอยู่ในหอพัก เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจะหลอกให้ขึ้นรถจักรยานยนต์ ขับออกจากจุดเกิดเหตุแล้วหลอกให้ผู้เสียหายลงจากรถโดยอ้างเหตุให้รอ จากนั้นคนร้ายจะย้อนกลับไปที่ร้านหรือหอพัก เพื่อขโมยทรัพย์สินที่หยิบฉวยง่าย ทรัพย์สินที่ได้เอาไปจำนำที่ร้านประจำที่จังหวัดมหาสารคาม
จากการสืบสวนพบว่านางอุ๊มีหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.540/2560 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2560 ข้อหา ลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม โดยสามารถติดตามจับกุมได้ที่บ้านปอแดง ต.ขามเฒ่าพัฒนา อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซึ่งพื้นเพเดิมของนาอุ๊เป็นคนจังหวัดมหาสารคาม และเจ้าตัวสารภาพว่าก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้ในเขตอำเภอเมือง พื้นที่สภ.บ้านเป็ด และที่เขต สภ.กาฬสินธุ์ รวมไม่น้อยกว่า 20 ครั้ง เฉพาะในเขต สภ.เมืองขอนแก่นระยะเวลาแค่เดือนเดียวมีผู้เสียหายถึง 16 ราย
ระหว่างแถลงข่าวได้มีผู้เสียหายนำดอกไม้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามจับกุมตัวนางอุ๊ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อค้าแม่ค้าหลายราย นายภัทรพล ซาซุม อายุ 28 ปี เจ้าของร้านตำโสเหล่ หน้ามหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนวันเด็ก นางอุ๊ได้ขี่จักรยานยนต์มาที่ร้านและพูดคุยพูดจาดี บอกว่าต้องการสั่งส้มตำจำนวน 30 ครก และไก่ย่าง 5 ตัวไปเลี้ยงเด็กในวันเด็ก ซึ่งส้มตำที่สั่งเป็นส้มตำพิเศษ เช่นตำหอยแครง ตำทะเล ราคาค่อนข้างสูงถุงละ 60 บาท ขณะนั้นตนได้สับไก่จำนวน 5 ตัวไปด้วย ยังไม่ทำส้มตำนางอุ๊บอกว่า ต้องการไปเอาภาชนะเอาถาดมาใส่ส้มตำเพื่อความสะดวกในการเลี้ยงเด็ก จึงขอให้ตนนั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไปด้วย เห็นว่าดูใจบุญและอยากช่วยคนทำบุญจึงซ้อนท้ายไปแต่พอห่างจากร้านเข้าซอยพอลับตา ประมาณ 2 นาที นางอุ๊ได้จอดรถบอกว่าให้ยืนรอใกล้หอพักแห่งหนึ่งบอกว่าลืมกุญแจห้อง แล้วขับรถหายไป ยืนรอสักพักเห็นว่านานก็เลยเดินกลับที่ร้านปรากฏว่าเครื่องโน๊ตบุ๊คได้หายไป จึงรีบไปแจ้งความทันที และหลังเกิดเหตุที่ร้านพบว่ามีอีกหลายคนที่ถูกนางอุ๊หลอกและกลับมาขโมยทรัพย์สิน ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อค้าแม่ค้าหรือแม้แต่นักเรียนนักศึกษา ถูกนางอุ๊หลอกและขโมยทรัพย์สินมาแล้วหลายราย