คสช.งัดกฎหมายเข้ม เอาผิดกลุ่มต้านรัฐบาล

คสช.งัดกฎหมายเข้ม เอาผิดกลุ่มต้านรัฐบาล

ผบ.ทบ. ย้ำฝ่ายความมั่นคง งัดใช้กฎหมายเข้ม เอาผิดกลุ่มต้านรัฐบาล บอกไม่ต้องใช้ยาแรงจัดการ

เมื่อวันที่ 31 ม.ค.61 พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึง การที่กลุ่มต่างๆออกมาเคลื่อนไหว ว่า ฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย เพราะเกรงว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรง และนำพาบ้านเมืองกลับไปสู่สถานการณ์เดิม เพราะประเทศเราเคยมีบทเรียนที่เจ็บปวด มีความสูญเสียในอดีต โดยตนกำชับฝ่ายความมั่นคงให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุม ไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า เพราะจะก่อให้เกิดปัญหาบานปลาย และเกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน

พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีนี้เรามีการพูดคุยกันตลอดเวลา แต่บางคนมีความคิดว่าเชื่อที่แตกต่างกัน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ส่วนจะเป็นผลจากคสช.อยู่ในช่วงขาลง และกองหนุนลดลงหรือไม่นั้น ตนคิดว่าไม่เกี่ยวกันโดยตรง อาจเป็นเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง และความต้องการของประชาชนบางส่วนที่ต้องการเลือกตั้งตามกรอบ และอยากให้เลือกตั้งเร็วขึ้น ขอย้ำว่าทุกอย่างเป็นตามตามกระบวนการกฎหมาย เป็นเรื่องที่ทุกคนทราบดี ตนเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างก็เดินหน้าต่อไป ดังนั้นการเรียกร้อง และการชุมนุมสามารถแสดงออกได้ แต่อะไรที่ขัดเจตนารมณ์กฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการ


เมื่อถามอีกว่า กลุ่มเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มหน้าเดิมที่เคยถูกดำเนินคดีหลายครั้ง จะมีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ คิดว่าจะมีความชัดเจนในอนาคต แต่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข เพื่อประกอบอาชีพได้ตามปกติ บางสิ่งบางอย่างอาจไม่ได้ตามที่ใจปรารถนา แต่ถ้าพยายามเรียกร้องให้ได้ตามที่ปรารถนา แล้วเกิดผลกระทบในวงกว้าง เกิดการบาดเจ็บและสูญเสีย ตนคิดว่าเป็นเรื่องไม่บังควร

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ปัจจุบันมีข้อเสนอให้กองทัพอยู่ข้างประชาชน แยกออกจากคสช. เลขาธิการคสช. กล่าวว่า ปกติกองทัพไม่ใช่ว่าสนับสนุนใคร หรือไม่ได้สนับสนุนใคร แต่กองทัพเป็นกลไกในการบริหารราชการของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย อาจมีบางครั้งที่มีปัญหา กองทัพก็ออกมาแก้ไขปัญหา เช่นวิกฤตการเมือง หากปล่อยไว้จะเป็นความเสียหายของชาติบ้านเมือง

"ปัจจุบันรัฐบาลพยายามวางรากฐานของประเทศ ผมคิดว่าสิ่งที่รัฐบาลทำจะสัมฤทธิ์ผลในอนาคตแต่ต้องใช้เวลาบ้าง จนทำให้บางคนพอใจ บางคนไม่พอใจ ก็ออกมาเคลื่อนไหว แต่ผมคิดว่าถ้ารออีกสักนิด โดยที่ไม่เร่งรัดเกินไป จนก่อให้เกิดผลกระทบเป็นความขัดแย่งที่รุนแรง นำไปสู่ความสูญเสีย มันจะดีกว่าไหม" ผบ.ทบ. กล่าว

เมื่อถามอีกว่าเป็นไปได้ไหมที่ทหารจะออกมาจัดการให้เบ็ดเสร็จเหมือนปี 2557 พล.อ.เฉลิมชัย ย้อนถามว่า คำว่าเหมือนปี 2557 คืออย่างไร ต้องแยกกัน เพราะปกติกลไกของรัฐใช้กฎหมายปกติ การที่ทหารออกมาแก้ไขปัญหาก็เพราะเป็นวิกฤตของชาติ แต่ปัจจุบันมันไม่มีอะไร มีแค่คนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องที่ทหารต้องออกมา หรือไม่ออกมา

ผู้สื่อข่าวยังถามอีกว่า การที่กลุ่มเหล่าอีกเคลื่อนไหวให้มีการเลือกตั้งจะเป็นวิกฤตได้อย่างไร พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า สิ่งที่ตนกำลังทำอยู่ และอธิบายให้สังคมฟังว่าสิ่งที่รัฐบาลทำคืออะไร แล้วเราก็มาชั่งใจว่าจะออกมาเผชิญหน้าให้บ้านเมืองเสียหายเหมือนในอดีตหรือไม่ หรือจะรออีกสักนิดเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าได้ แล้วไม่เกิดผลกระทบต่อประชาชน

ส่วนที่มองว่ารัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน ที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ สวนทางกับพ.ร.บ.ชุมนุม ในพื้นที่สาธารณะพ.ศ.2558 และคำสั่งคสช.ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า จะมองประเด็นสิทธิเสรีภาพอย่างเดียวไม่ได้ ตนบอกแล้วว่าแสดงความคิดเห็นได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย หากเกินกรอบกฎหมายเราต้องใช้กฎหมายปกติดำเนินการ และผู้ที่รับผิดชอบการชุมนุม หรือกลุ่มม็อบต้องยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นในการดำเนินการของตนเอง เพราะก็ทราบดีว่าเรามีกฎหมายชุมนุม และกฎหมายต่างๆอยู่

เมื่อถามอีกว่าถึงเวลาหรือยังที่กองทัพต้องใช้ยาแรงก่อนสถานการณ์จะบานปลาย พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า สถานการณ์ยังไม่บายปลาย เพราะเชื่อว่าจะอยู่แค่นี้ เป็นเพียงการเรียกร้องของคนกลุ่มหนึ่ง แต่คนส่วนใหญ่ต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข ทำมาหากิน

เมื่อถามว่า กลุ่มการเมืองที่เสียประโยชน์เข้าไปเคลื่อนไหว จะเป็นการเคลื่อนไหวใหญ่หรือไม่ ผบ.ทบ. กล่าวว่า "คงไม่มั้ง เพราะยังไม่มีอะไรเสียประโยชน์ เวลาที่เพิ่มขึ้นมา 90 วัน ตามร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ทุกคนมีเวลาเท่ากัน ไม่มีใครเสียประโยชน์ ผมคิดว่าพรรคการเมืองเข้าใจอยู่แล้วว่าทำอะไรได้มาแค่ไหน ส่วนคนที่เคลื่อนไหวเป็นแค่การแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองเท่านั้นเอง ผมมั่นใจว่าไม่มีอะไร และจะพยายามควบคุมสถานการณ์ให้ได้"