MORNING CALL ACTION NOTES (31 ม.ค.61)

MORNING CALL ACTION NOTES (31 ม.ค.61)

พักฐานต่อเนื่อง

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน กลับมาอ่อนตัวลงตามภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีแรงกดดันหลักจากกลุ่ม ENERG และ PETRO ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,826.61 จุด (-10.88 จุด) Volume 6.2 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -2,573.40 ลบ.  TFEX Net -12,434 สัญญา ตราสารหนี้ -6,462.91 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ยูโรสแตทเผยเศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 2.5% ในปีที่แล้ว สูงสุดรอบ 10 ปี

+ดัชนีราคาบ้านสหรัฐพุ่งขึ้น 6.2% โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และภาวะขาดแคลนสต็อกบ้านในตลาด และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐทะยานขึ้น สู่ระดับ 125.4

-น้ำมันลงแรงหลังกำลังผลิตของสหรัฐฯขยับขึ้นเหนือ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันสูงสุดในรอบ 48 ปี

-ดาวโจนส์ปิดลบ จากแรงฉุดของกลุ่มประกันสุขภาพ มีข่าวอเมซอนจะขยับเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมแห่งนี้

+/-Fund Flow ต่างชาติพลิกกลับมาขาย 2 วันราว 2.9 พันลบ. ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 31.40  Bath/USD

**30-31 ม.ค. ประชุมเฟด คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.50%

ภาวะตลาดหุ้นไทยในวันนี้ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงและการอ่อนตัวลงของดัชนีดาวโจนส์และตลาดเพื่อนบ้าน อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติขายติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ราว 2.9 พันล้านบาทคอยกดดันดัชนี   ดังนั้นคาด SET จะอ่อนตัวลงในกรอบ 1,814-1,835 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- NYT ยอดส่งออกรถยนต์ ธ.ค.โต 11.28% มาที่ 95,834 คัน

- AMATA WHA ร่างพรบ.อีอีซีจะเข้าสู่ที่ประชุมสนช.ราวเดือนก.พ.

- AIT ITEL กสทช.เตรียมประมูลเน็ตชนบทเดือน ก.พ. 61

- หุ้นที่ผลประกอบจะเติบโตในไตรมาส 4/60 ANAN COMAN XO MALEE TWPC JUBILE AMA D SGP TRUE PTTGC TPCH SYNEX IVL ASIMAR VCOM  ORI

หุ้นแนะนำพิเศษ

TPCH (ราคาปิด 15.30 ซื้อ ราคาเหมาะสม 21.74)

  • คาดผลประกอบการผ่าจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q60 หลังมีการบันทึกด้อยค่าเงินลงทุน 40 ล้านบาท (ไตรมาส 2/60 บันทึกไป 20 ล้านบาท) ขณะที่ต้นทุนขายทรงตัวโดยไม่มีความเสี่ยงจากต้นทุนวัตถุดิบเพราะได้จ้างคู่ค้ามาบริหารโรงไฟฟ้าแทน โดยไตรมาส 4 จะรับรู้การผลิตจากโรงไฟฟ้า PGP กำลังการผลิต 9.2 MW เต็มไตรมาส (COD ก.ค. 60)
  • โดยปี 61 เราคาดว่าผลประกอบการมีโอกาสเติบโต 98%YoY สู่ 405 ล้านบาทจากการรับรู้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้า PGP เต็มปีและโรงไฟฟ้า SGP กำลังการผลิต 9.2 MW ที่จะ COD ใน 1Q61 นอกจากนี้ยังมีโรงไฟฟ้าอีก 3 แห่ง TPCH1 TPCH2 และ TPCH5 กำลังการผลิตรวม 24.7 MW ซึ่งจะ COD ใน 4Q61 ช่วยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม
  • บริษัทเตรียมเข้าประมูลโรงไฟฟ้ารูปแบบ VSPP-Semi Firm ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลภายใน 1Q60 รวม 269 MW โดยบริษัทยังคงเน้นการประมูลไปที่ภาคใต้รวม 80 MW

หุ้นมีข่าว   

JFIN COIN

·        JFIN Cion ออกโดยบริษัทในกลุ่ม JMART จำนวน 300 ล้านเหรียญ โดยทำ Initial Coin offering (ICO) จำนวน 100 ล้านเหรียญที่ราคา 6.6 บาทเพื่อทำเงินที่ได้ราว 660 ล้านบาท (อีก 200 ล้านเหรียญเพื่อตอบแทนให้คนที่ช่วย verify ธุรกรรมและจ่ายเป็นค่าธรรมเนียม) ไปพัฒนาระบบ Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) เพื่อลดตัวกลางในการกู้ยืมเงิน และใช้ระบบ Blockchain ในการ verify ตัวตน

·        JFIN Coin ไม่ได้ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์(SET)แต่จะทำการซื้อขายผ่านตลาด TDAX (พัฒนาคนไทย) ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายเงินสกุลดิจิตอลต่างๆ และในอนาคตจะขยายไปซื้อขายในตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม

·        ราคา JFIN Coin จะขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ระบบ DDLP ถ้ามีผู้ใช้บริการมากราคา JFIN Coin ก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น นอกจากนี้กลุ่ม JMART อาจออกโปรโมชั่นสำหรับทำร่วมกับ JFIN Coin เพิ่มเติมก็จะทำให้มูลค่าเหรียญมีค่าสูงขึ้น

·        ความเห็น การออกเหรียญ JFIN Coin เป็นผลบวกกับกลุ่มบริษัท JMART เนื่องจากเป็นการระดมทุนโดยที่ไม่มี Diluted Effect แต่บริษัทในกลุ่มได้เงินเพื่อไปลงทุนพัฒนาระบบ DDLP ซึ่งกว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2020 ทำให้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าของระบบ DDLP และ JFIN Coin ได้

DTAC (ราคาปัจจุบัน 50.25 บาท Bloomberg Consensus 52.12 บาท)

·        รายงานกำไรงวด 4Q60 อยู่ที่ 542 ล้านบาท เติบโตกว่า 1702%YoY แต่ยังอ่อนตัว 9.7%QoQ โดยแม้รายได้รวมเติบโตเพียง 1.3%YoY ซึ่งเป็นทั้งการเพิ่มขึ้นและลดลงของทั้งบริการเสียงและข้อมูล (เสียง -23%YoY ข้อมูล +16%YoY) แต่เกิดจากต้นทุนลดลง 8.1%YoY หลังการปรับลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาต (จากค่าธรรมเนียม USO) ที่ลดลง นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 4.5%YoY อย่างไรก็ตาม โดยรวมปี 2560 เติบโตเพียง 1.4%YoY

·        แนวโน้มรายได้ในปี 61 น่าจะยังคงทรงตัว YoY ภายใต้สภาวะการแข่งขันที่ยังทรงตัวในระดับสูง แต่น่าจะได้รับปัจจัยบวกจากผลของการปรับลด USO เต็มปี แต่ทั้งนี้ DTAC ยังมีประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามจากการรับรองการเป็นคู่สัญญากับ TOT บนคลื่น 2300 Mhz. จากสำนักงานอัยการสูงสุด ทั้งนี้ล่าสุดประกาศจ่ายเงินปันผล 0.24 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Div. Yield ราว 0.47% (XD วันที่ 15 ก.พ. 61)

AMA (ราคาปัจจุบัน 16.20 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 19.40 บาท)

·        บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 61 ที่ 30%YoY จากการเพิ่มเรือขนส่งน้ำมันปาล์มขนาด 1.3 หมื่น DWT ในปี 61 จำนวน 3 ลำ ด้วยเงินลงทุน 1.45 พันลบ.จากการกู้ยืม 80% และ 20% เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยลำแรกพร้อมให้บริการ มี.ค. 61 ส่วนรถบรรทุกมีแผนเพิ่มเป็น 180 คันในช่วง 4Q61 ปัจจุบันอยู่ในการเจรจาเข้าลงทุนธุรกิจขนส่งขนาดเล็กคาดมีความชัดเจนปลาย 1Q61

·        การเพิ่มกองเรือของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะหนุนให้ AMA เข้าใกล้ความเป็นอันดับ 1 ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้นไปทุกที และยังคงคาดว่ากองเรือใหม่ทั้งหมดมี Demand มารองรับแล้วไปน้อยกว่า 85 - 90% ส่วนดีลการลงทุนในธุรกิจขนส่งฯต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนรวมไว้ในประมาณการ โดยแม้การแข็งค่าของเงินบาทยังคงเป็นความเสี่ยงสำคัญที่อาจมากดดันผลกำไรระยะสั้นแ  แต่ทั้งนี้ ในระยะกลางการเริ่มดำเนินการภายใต้กองเรือใหม่หนุนให้คาดว่ากำไรของบริษัทน่าจะยังมีการเติบโตให้เห็นต่อเนื่อง จึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" 

·        ประเด็นบวกกลุ่มธนาคาร : ฟิทช์ เรทติ้งส์ปรับมุมมองกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปี 61 แนวโน้ม “มีเสถียรภาพ” จากเดิม “ลบ” คาดหนี้เสียจะชะลอตัวลงในปีนี้ หลังผ่านจุดแย่สุดมาแล้ว ส่งให้ผลการดำเนินงานดีขึ้น ขณะที่สินเชื่อขยายตัวจากอัตราการเติบโตของจีดีพีระดับ 4%

·        ความเห็น ฝ่ายวิจัยคาดว่าภาพรวมการปล่อยสินเชื่อจะเติบโตดีกว่าปีก่อนหน้าเนื่องจากได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้ว ภาครัฐเร่งรัดลงทุนในโครงการขนาดใหญ่  และการที่ภาคเอกชนมีความมั่นใจมากขึ้นในการขยายการลงทุนและกำลังการผลิตทำให้มีความต้องการสินเชื่อมากขึ้น เราให้น้ำหนัก "NEUTRAL" สำหรับการลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคาร และเราชอบ KBANK KTB TMB

·        (+) SAWAD ไร้กังวลตั้งสำรองหนี้เพิ่มตาม IFRS9 หลังจากได้ยกพอร์ตสินเชื่อไปยัง BFIT เกือบหมดแล้ว ส่วน BFIT มีอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญฯสูงถึง 200% เพียงพอต่อมาตรฐานบัญชีใหม่ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·        (+) RP "ท่าเรือราชาเฟอร์รี่" สบช่องนักท่องเที่ยวบูม รุกเพิ่มเที่ยวเรือไป-กลับ เส้นทางเกาะสมุย-เกาะพะงัน รวมวันละ 8 รอบ พร้อมให้บริการ 1 กุมภาพันธ์นี้ คาดหนุนผลงานเติบโตกลับมาเป็นตัวเลข 2 หลัก (ที่มา ทันหุ้น)

·        (+) BIZ (ราคาปิด 3.7 ลงทุนระยะยาว ราคาเหมาะสม 4.80) เผยได้สัญญาขายเครื่องเร่งอนุภาคที่ผลิตเฉพาะโฟตอนพร้อมชุดอุปกรณ์ฉายรังสีให้ รพ.ชลบุรี 98.60 ลบ.

·        (+)EA เล็งพัฒนานิคมฯกว่า 2.5 พันไร่ในฉะเชิงเทรารองรับรง.แบตเตอรี่-รถ EV พร้อมเปิดตัวรถต้นแบบในงานมอเตอร์โชว์ปลายมี.ค.