รักนะ… เด็ก(ไม่)โง่

เมื่อความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่วัยกลางคนกับเด็กสาวมัธยมไม่ใช่แค่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ..แต่มีอะไรไม่ธรรมดาอยู่เบื้องหลัง

ผู้อำนวยการโรงเรียนจะเรียกใครว่า “ที่รัก” ก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่นักเรียนชั้น ม.2

ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเรา ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 - 20 ปี แต่ที่เน็ตไอดอล ปรมาจารย์สำนักดาบ ถูกด่าสาปแช่งยกใหญ่ เจ้าของบ้านเช่าต้องขับไล่ออก เพราะดันไปกระทำกับเด็กหญิงอายุ 10ปี…เรื่องนี้รับกันไม่ได้

ชายสูงวัยกับสาวแรกรุ่น, หนุ่มใหญ่กับเด็กหญิง, เสี่ยนักธุรกิจกับพริตตี้วัยขบเผาะ และอีกฯลฯ ความสัมพันธ์คือหลายเรื่องราวที่พวกเราได้ยิน ได้เห็น และแอบนินทา ค่าที่ว่านี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบที่เราคุ้นชินกัน ว่าแต่อะไรกันหนอที่อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์ที่ว่านี้

จากโลลิตาถึงไลน์แชท

โลลิตา (Lolita) คือชื่อเรียกของพวกหนุ่มใหญ่ที่หลงรักเด็กหญิง ชื่อนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากนวนิยายของ วลาดิมีร์ นาโบคอฟ นักเขียนนักแปลชาวรัสเซีย ที่มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ

บางคนมองว่าโลลิตาเป็นนวนิยายลามกและผิดศีลธรรม นั่นเพราะตัวเอกของเรื่องที่ชื่อ ฮัมเบิร์ต ฮัมเบิร์ต ชายวัยกลางคนไปตกหลุมรักกับ เดอลอร์ส เฮซ เด็กสาวอายุ 12 ปี บุตรบุญธรรมของตน ซึ่งเรื่องราวของทั้ง2 เป็นความสัมพันธ์ที่แหกขนบประเพณีใดๆ จนนำไปสู่โศกนาฎกรรมในชีวิตของคนทั้งคู่ และถึงแม้ว่า ฮัมเบิร์ต ฮัมเบิร์ต จะเป็นชายนอกรีต แต่การบรรยายความรู้สึกปวดร้าว สับสน ลุ่มหลง และความทรมานที่เขามีต่อเด็กสาวของผู้เขียนก็ทำให้ผู้อ่านเห็นว่าฮัมเบิร์ตตัวเอกของเรื่องเป็นชายที่น่าสงสารและน่ารังเกียจในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้นับตั้งแต่นิยายโด่งดังคำว่า “โลลิตา” จึงเป็นชื่อเรียกชายสูงวัยที่หลงรักเด็กสาว(โดยมากอายุไม่ถึง 17ปี)

ส่วนประเทศญี่ปุ่นมีคำเรียกที่ว่า “โลลิคอน” ซึ่งเป็นศัพท์แสลงมาจากคำว่า โลลิตาคอมเพล็กซ์ (Lolita complex)ที่อ้างอิงมาจากหนังสือชื่อเดียวกัน คำๆ นี้จะใช้แทนพฤติกรรมของผู้ที่มีอายุสูงกว่ามาก ที่มีความรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษกับเด็กที่อายุราวๆ 10-18 ปี หรือต่ำกว่า

พวกโลลิคอน มักถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกที่ส่งเสริมการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก และการละเมิดเช่นนี้ก็ไม่ได้หมายความเฉพาะการมีสัมพันธ์ทางเพศเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่มันยังหมายถึง การแอบตาม แอบถ่ายรูป ถ่ายคลิปวิดีโอ หรือมีพฤติกรรมอันหนึ่งอันใดที่แสดงถึงการคุกคาม ไม่เว้นกระทั่งการส่งไลน์แชทไปจีบ ร่ำร้องเรียกกันว่า “ที่รัก”

นพ.อภิชาติ จริยาวิลาศ จิตแพทย์โรงพยาบาลศรีธัญญา โฆษกกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข บอกว่า กลุ่มผู้ชายที่ชอบเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ยังไม่มีรูปร่างสัดส่วนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ถือเป็นโรคทางจิตเวชหนึ่งที่ชื่อ 'พีโดฟีเลีย' (Pedophilia)

กลุ่มคนที่เป็นโรคนี้มีหลายระดับ ตั้งแต่ระดับเบาๆ อย่างรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษกับเด็กหญิง แต่ก็ยังมีสัมพันธ์กับคนรุ่นเดียวกันได้ตามปกติ แตกต่างกับประเภทต่อมาคือกลุ่มที่มีอาการรุนแรง ซึ่งจะมีอารมณ์ทางเพศกับเด็กหญิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ไม่มีความสุขทางเพศกับคนในวัยผู้ใหญ่ได้เลย

“คงจำแนกและตัดสินช่วงอายุของเด็กหญิงที่เป็นสเป็คของผู้ป่วยพีโดฟีเลียยาก เพราะปัจจุบันเด็กจะมีรูปร่างของวัยเจริญพันธุ์เร็ว แต่สังเกตว่าผู้ป่วยจะตื่นเต้นกับเด็กหญิงที่มีรูปร่างที่ยังไม่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เช่น ยังไม่มีหน้าอก สะโพกยังไม่ผาย ซึ่งอาการเช่นนี้มีตั้งแต่ระดับที่ยังควบคุมตนเองได้ กับควบคุมไม่ได้ ซึ่งประเภทหลังนี้สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดทางเพศ หรือในมุมของผู้ป่วยเมื่อพลาดพลั้งไปแล้ว ก็อับอาย รู้สึกผิด จนนำไปสู่โรคทางจิตอื่นๆ หนักเข้าก็อาจจะฆ่าตัวตาย”

หนุ่มใหญ่กับสาวรุ่น

ชายวัย 40 ปีรายหนึ่งยอมรับว่า เขาตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อไปทำธุระย่านสยามแสควร์ หรือต้องเข้าไปติดต่องานใกล้ๆ สถาบันการศึกษา เพราะโอกาสเช่นนี้ทำให้เขาจะมีโอกาส “ส่องเด็ก” ซึ่งหมายถึงการได้ดูเด็กสาวในวัยมัธยมปลาย หรือไม่ก็นักศึกษามหาวิทยาลัย และเครื่องแบบนักศึกษาแบบที่ว่า กระโปรงสั้น-เสื้อฟิต ก็ทำให้หัวใจคึกคัก สดชื่น

ขณะที่หญิงพนักงานบริษัทวัย 27 ปี ซึ่งเลือกคบแฟนหนุ่มอายุต่างกันเกือบ 20 ปี บอกว่า อายุที่ต่างกันแทบไม่ใช่ปัญหาของความสัมพันธ์เลย เธอรู้สึกดีกว่าตอนที่คบกับผู้ชายในวัยไล่เลี่ยกันด้วยซ้ำ เหตุผลหลักๆ นั่นคือ แฟนของเธอมีเหตุผล ใจเย็น และเป็นที่ปรึกษาในชีวิตได้ ขณะที่อีกข้อมันคือความรู้สึกปลอดภัย ทั้งด้านจิตใจที่มีคนปกป้องดูแล กับด้านกายภาพที่หมายถึงปัจจัยพื้นฐานอย่างบ้าน รถ ทรัพย์สิน

“แต่ไม่ใช่เพราะเงินอย่างเดียวแน่นอน ใครมองว่าคบแฟนแก่เพราะเรื่องเงินนี่ตื้นมากเลยนะ มันหลายๆ อย่างรวมกัน และทำให้เรารู้สึกดีกว่าคบคนรุ่นเดียวกัน”

แน่แหละว่า ความสัมพันธ์ของชายกลางคนกับเด็กหญิงวัยคราวลูกในนวนิยายโลลิตา กับหนุ่มใหญ่รักใคร่นักศึกษามหาวิทยาลัย หรือการที่ผู้ชายไทยกำลังดี๊ด๊ากับเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใสแบบที่เป็นอยู่ขณะนี้นั้นแตกต่างกัน

เสาวคนธ์ ศิรกิดากร นักจิตวิเคราะห์ และประธานสถาบันคาร์ล จุง ประเทศไทย อธิบายว่า ความสัมพันธ์และความตื่นเต้นที่ผู้ชายมีให้กับผู้หญิงอายุน้อยกว่ามากๆ เป็นเรื่องของ Power of youth หรือพลังของคนหนุ่มสาวที่ส่งผ่านถึงกันมากกว่า มันจึงไม่แปลก (แต่อาจผิดกติกาครอบครัว) ที่พ่อบ้านจะอยากส่งเสียภรรยาน้อยวัยนักศึกษากันแบบลับๆ หนีไปเที่ยวแล้วขอเด็กเอ๊าะๆ มานั่งข้างๆ กระทั่งหนุ่มออฟฟิศยังขอเป็น “โอตะ” นั่งเสพเนื้อหา BNK48 กันเป็นวันๆ

“ลองดูสิว่าน้องๆ พวกนี้เขาน่ารักขนาดไหน เขาสดใส ตาเป็นประกาย จริตก้านของความเป็นผู้ใหญ่มันยังมีไม่มาก มันจึงมีพลัง รู้สึกสดชื่นเมื่อได้ดู ได้เข้าใกล้ แต่ก็ไมได้หมายความว่าถ้าพวกเขาจะหาแฟน ก็ต้องเป็นเด็กรุ่นราวประมาณนี้”

รักของสาววัยรุ่น ที่มีทรวดทรงแบบวัยเจริญพันธุ์แล้ว (ถึงจะอายุน้อย) กับผู้ชายที่มีอายุมากกว่าแบบมีนัยยะสำคัญ จึงไม่ได้เป็นอาการป่วยพีโดฟีเลีย หรือต้องเรียกว่าเป็นพวกโลลิตา แต่ถือเป็นรสนิยมที่เกี่ยวข้องกับภูมิหลังในวัยเด็กที่มาจากครอบครัว ปมประสบการณ์ กระทั่งเชื่อมโยงกับทฤษฎีผลไม้ต้องห้าม (forbidden fruit) จำพวกความสัมพันธ์ลับๆ มันช่างตื่นเต้น และท้าทาย

เสาวคนธ์ บอกว่า ในกรณีของผู้หญิงที่หลงรักผู้ชายอายุมากกว่ามากๆ นั่นก็เป็นเพราะเธออาจมีภูมิหลังของการขาดพ่อหรือพี่ชาย หรือก็ไมได้รับความรักเท่าที่ใจต้องการ การเข้ามาของผู้ชายกลุ่มนี้จึงให้ความอบอุ่น การปกป้องดูแลใส่ใจให้กับพวกเธอได้

ส่วนเพศชาย ที่เลือกรักกับเด็ก นั่นเพราะเขาหลงรักความสดใส ชอบในความตื่นเต้น และเบื่อหน่ายกับการคบกันคนในวัยไล่เลี่ยกัน หรือคนในวัยเดียวกันให้พลังความสดใสแบบที่เขาต้องการไม่ได้

“คนในวัยเดียวกันอาจมองว่าสิ่งที่เขาทำเป็นเรื่องธรรมดา หรือไม่ก็เป็นพวก Loser (ผู้แพ้) แต่เมื่อคบกับเด็กทุกอย่างมันดูสดใส ดูตื่นเต้น แปลกใหม่ มีความหวังไปทั้งหมด ได้รับคำชื่นชม เช่น “พี่มีอันนี้ด้วยเหรอ” “พี่ทำแบบนั้นได้ด้วย”  เติมเต็มชีวิตในสิ่งที่ตัวเองต้องการแบบที่ผู้หญิงวัยเดียวกันให้ไม่ได้”

“ส่วนเด็กสาวก็ตกหลุมพรางของความอบอุ่น หลงใหลข้าวของที่เขามอบให้ ประทับใจสถานที่ที่เขาพาไป ก็จะยอมมีความสัมพันธ์ด้วยแบบเต็มใจ หรือถ้าเป็นกรณีถูกล่อลวงก็มักจะฝังใจกับการมีสัมพันธ์กับชายสูงวัย ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้านผู้ชายก็จะใช้วิธีการนี้ซ้ำๆ เช่นเดียวกัน”

ละเมิดไม่ใช่เรื่องเล่น

จะรักเด็กสาวแบบโลลิตา หรือจะแทคแคร์เอาใจแบบหนุ่มใหญ่กับสาวรุ่น แต่ที่เป็นหัวใจหลักๆ ของเรื่องนี้คือ “การละเมิดทางเพศ” การเอาความชอบใจมาหลอกล่อซ้ำๆ จนเหยื่อตายใจในที่สุด กรณีนี้เหยื่อที่ถูกกระทำจะกลายเป็นคนมีปมติดตัว เชื่อมโยงได้กับอาการทางจิต ความเครียด การหวาดระแวง การเป็นโรคซึมเศร้า ฯลฯ

เสาวคนธ์ นักจิตวิทยา และเจ้าของเพจต่อต้านการข่มขืนและละเมิดทางเพศ บอกว่า จากการศึกษากรณีของการละเมิดส่วนใหญ่จะมีเหตุจูงใจในลักษณะผสมผสานกัน เช่น ตัวผู้กระทำมีภูมิหลังจากการละเมิดมาก่อน มีรสนิยมชอบเด็กอยู่แล้ว ส่วนตัวเด็กเองก็ขาดที่พึ่ง ขาดความอบอุ่น เหมือนกรณีละเมิดทางเพศในคริสตจักรที่เหยื่อมักเป็นเด็กชายซึ่งมักมีปัญหาครอบครัว และผู้กระทำก็มักล็อคเป้าหมายที่ว่านี้ซ้ำๆ

“ส่วนกรณีเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศในประเทศไทยก็มักจะเกิดจากบุคคลใกล้ตัว เช่น พ่อเลี้ยง ปู่ ตา พี่ชายต่างมารดา ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะล่วงละเมิดเด็กทีละนิด แล้วขู่ว่าห้ามบอกใคร แต่เมื่อเด็กทนทุกข์ไม่ไหวและรวบรวมความกล้าไปบอกแม่ กลับถูกหาว่าโกหก และถึงแม้ว่าแม่จะรู้แต่ก็ไม่กล้าเอาผิด เพราะกลัวชีวิตตัวเองจะสูญเสีย”

ความผิดที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดทางเพศเด็กอายุไม่ถึง 18ปีนั้นมีลดหลั่นกันไป และแม้เด็กจะยินยอมหรือไม่ ถือว่าเป็นความผิด ผู้กระทำมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20ปี ถูกปรับหรืออาจต้องรับโทษหนักถึงขนาดถูกจำคุกตลอดชีวิต

ไม่เพียงเท่านั้น การนำภาพหรือสื่อที่มีลักษณะลามกอนาจารนำขึ้นสู่ระบบอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ข้อความพร้อมรูป หรือการส่งผ่านทางเมล จะมีโทษจำคุก5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000บาท ส่วนการซื้อบริการเด็กต่ำกว่า 18 ปี จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้กรณีมีบุคคลที่ 3 เข้าเป็นธุระจัดหาให้คดีนี้จะกลายเป็นการค้ามนุษย์อีกคดีหนึ่งด้วย

นพ.อภิชาติ กล่าวว่า แม้แพทย์จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคพีโดฟีเลีย แต่ก็ไม่มีผลใดๆ ต่อการดำเนินคดี ขณะที่อีกด้านการป่วยด้วยโรคเช่นนี้ต้องเข้ารับการรักษาโดยทันที ทั้งการใช้ยา การใช้จิตบำบัด การปรับตัว ปรับมุมมอง หาวิธีการรับมือกับความต้องการทางเพศอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการเกิดการกระทำทางเพศต่อเด็ก หากต้องการคำปรึกษาสามารถโทรมาได้ที่สายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323 ขณะที่เด็กและผู้พบเห็นการล่วงละเมิดทางเพศ สามารถโทร 1300 ศูนย์ประชาบดี กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ความสัมพันธ์ของหนุ่มใหญ่-เด็กหญิง หรือชายใกล้60-สาว20หมาดๆ นอกจากคำด่าทอว่า เลว, โง่, หื่น, อยากรวย, ไม่รักดี ฯลฯ มีเบื้องหลังที่เราต้องทำความเข้าใจ และรักษาความบกพร่องเหล่านั้น