รวบหนุ่มมาเลย์ม้ากดเงินเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับค่าจ้าง 2%

รวบหนุ่มมาเลย์ม้ากดเงินเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับค่าจ้าง 2%

รวบหนุ่มมาเลย์ม้ากดเงินเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เร่งขยายผลถึงตัวบางการใหญ่ สารภาพได้ค่าจ้าง 2 เปอร์เซ็นต์จากเงินที่กดได้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 มกราคม 2561 ที่ห้องประชุมชั้น 4 สน.บางเขน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วยพ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายกัน ชิน เชท (MR.GAN CHIN CHEAT) อายุ 38 ปี สัญชาติมาเลเซีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.46/2561 ลงวันที่ 29 มกราคม 2561 ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติทำหน้าที่เป็นม้ากดเงิน พร้อมของกลางเงินสด บัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีธนาคารหลายรายการ โดยจับกุมได้ขณะกำลังกดเงินจากตู้เอทีเอ็มแห่งหนึ่งย่านบางซื่อ สืบเนื่องจากในช่วงระหว่างวันที่ 17-26 มกราคมมีกลุ่มคนร้ายโทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหายในหลายพื้นที่ อาทิ สน.บางเขน สภ.สมุทรสาคร และสภ.บางบัวทอง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินไปรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1.2 ล้านบาท

พล.ต.ต.สรุเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ปราบปรามอย่างต่อเนื่องจริงจัง ทำให้คนไทยที่รับจ้างเปิดบัญชีรู้ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงไม่มีคนไทยกล้ารับจ้างเปิดบัญชีแล้ว ซึ่งเดิมก่อนหน้านี้มีคนไทยรับจ้างเปิดบัญชีเล่มละ 5,000 บาท ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงต้องเข้ามากดเงินในประเทศด้วยตนเอง มักจะเข้ามาในประเทศไทย 4-5 วัน เมื่อกดเงินได้เรียบร้อยแล้วก็จะรีบกลับประเทศไป เชื่อว่าม้ากดเงินเหล่านี้จะต้องมีการติดต่อประสานงานกับคนไทย เจ้าหน้าที่จะสืบสวนขยายผลต่อไป ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวเป็นความเดือดร้อนพื้นฐานของประชาชน ตนเชื่ออว่าการปราบปรามอย่างจริงจังจะทำให้สถานการณ์ดังกล่าวดีขึ้น

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า นายกัน ชิน เชท เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย จึงเชื่อว่าแก๊งดังกล่าวน่าจะอยู่ในประเทศมาเลเซีย ถือเป็นเรื่องดีเพราะมีความร่วมมือกับหน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจของมาเลเซียในการประสานข้อมูลกัน ซึ่งได้ส่งข้อมูลของกลุ่มแก๊งดังกล่าว และข้อมูลของนายกัน ชิน เชท ให้กับทางการมาเลเซียแล้ว เพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการด้านการโทรคมนาคมในการระงับการโทรเข้ามาของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าจะไม่ปรากฎว่าเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงานราชการที่กลุ่มแก๊งคนร้ายมักใช้แอบอ้างในการหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อ ทั้งนี้ได้ประสานข้อมูลการทำธุรกรรมผ่านตลาดเงินดิจิทัลกับกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกรรมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล หรือบิทคอยน์ เพื่อยับยั้งและติดตามเงินของผู้เสียหายคืนมา

ด้านนายกัน ชิน เชท รับสารภาพว่าทำหน้าที่รับจ้างกดเงินจากบัญชีรับโอนเงินของผู้เสียหาย โดยจะได้ส่วนแบ่ง 2% จากเงินที่กดมาได้
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ของผู้อื่นโดยมิชอบ
และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของของอื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป