ไฟเขียวขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 8-20 บาทมีผล 1 เม.ย.นี้

ไฟเขียวขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 8-20 บาทมีผล 1 เม.ย.นี้

ครม.ไฟเขียวปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 8-20 บาทต่อวัน มีผล 1 เม.ย.นี้ "บิ๊กตู่" กำชับดูแลราคาสินค้า -ช่วยผู้ประกอบการขนาดเล็ก

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามที่คณะกรรมการค่าจ้างประกาศให้ปรับเพิ่มขึ้น 8-20 บาทต่อวัน หรือตั้งแต่ 308-330 บาทต่อวัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงออก 3 มาตรการบรรเทาผลกระทบผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพราะเห็นว่าสัดส่วนที่ปรับเพิ่มขึ้นเอกชนรายใหญ่ยังพอรับภาระได้ ข้อเสนอดังกล่าวเป็นความเห็นจากทั้ง 3 ฝ่ายได้ข้อยุติร่วมกัน โดยที่ประชุม ครม.ไม่ได้ปรับแก้ไขตัวเลขแต่อย่างใด แม้จะมีกระแสข่าวว่าเคยเสนอปรับเพิ่ม 5-22 บาท

สำหรับกระทรวงการคลังออกมาตรการภาษี เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ กำหนดให้นายจ้างนำรายจ่ายค่าจ้างรายวันที่จ่ายให้ลูกจ้างมาหักลดหย่อนภาษีในการคำนวนกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้ 1.15 เท่า จากมาตรการเดิมหักลดหย่อน 1 เท่า บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน - 31 ธันวาคม 2561 โดยมีเงื่อนไข คือ บริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรายได้จากการขายสินค้าและให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 100 ล้านบาท และมีการจ้างแรงงานไม่เกิน 200 คน รวมทั้งอัตราค่าจ้างรายวันที่จ่ายจะต้องสูงกว่าอัตราค่าจ้างรายวันเดิม มาตรการดังกล่าวรัฐบาลเสียรายได้ 5,400 ล้านบาทต่อปี แต่จะเป็นการลดภาระรายจ่ายและเพิ่มการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี นับว่าเป็นการช่วยลดภาระคนละครึ่งระหว่างเอกชนและรัฐบาลประมาณ 9-10 บาท

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับในที่ประชุม ครม.มอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ เร่งหามาตรการช่วยเหลือร้านค้าและผู้ประกอบการขนาดเล็ก เพื่อลดผลกระทบที่จะได้รับจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ก่อนการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะมีผลบังคับใช้ไม่ให้ฉวยโอากาสเพิ่มราคาสินค้าสูงเกินจริง เพราะค่าแรงปรับเพิ่มขึ้นสัดส่วนน้อยมาก เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบ