ปปง.วางแนวล้อมคอก 'บิทคอยน์' หวั่นเป็นแหล่งฟอกเงิน

ปปง.วางแนวล้อมคอก 'บิทคอยน์' หวั่นเป็นแหล่งฟอกเงิน

ปปง. เตือนปชช.อย่าหลงเชื่อลงทุน "บิทคอยน์" สกุลเงินดิจิทัล เสี่ยงสูง ไม่มีกฎหมายรับรอง พร้อมปรับแก้ไขกฎหมายปิดทางมิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน

เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 61 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รักษาราชการแทน เลขาธิการ ปปง. กล่าวถึงกรณีที่มิจฉาชีพพัฒนารูปแบบการหลอกลวงโดยการใช้การโอนเงินผ่านระบบเทคโนโลยีขั้นสูง และมีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้ลงทุนหรือซื้อขายสินค้าด้วยเงินดิจิทัล หรือ cryptocurrency เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดนั้น ปปง. สามารถดำเนินการในการสืบสวนทางการเงินที่กระทำการฟอกเงินผ่านระบบเงินดิจิทัลได้ ขณะนี้พบว่ามิจฉาชีพใช้เงินดิจิทัล เช่น บิทคอยน์ ริปเปิล หรือเงินดิจิทัลสกุลอื่นๆ เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินที่ได้จากการกระทำความผิด ถึงแม้ว่าเงินดิจิทัลจะไม่ใช่เงินจริงๆ แต่ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่า ซึ่งหากมิจฉาชีพนำเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายไปซื้อหรือแลกเปลี่ยนเป็นบิทคอยน์ ก็เท่ากับเป็นการเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มา ก็เข้าองค์ประกอบความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ซึ่งปปง. สามารถตรวจสอบและดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินรวมทั้งบิทคอยน์ดังกล่าวได้

พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวอีกว่า ปปง. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้มีการหารือ และวางมาตรการในการจัดระบบกำกับดูแลทางการเงิน เพื่อให้สามารถรับมือมิจฉาชีพได้อย่างรวดเร็ว และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในปัจจุบัน โดยมีการดำเนินการเชิงรุกในการศึกษามาตรการในการกำกับดูแลผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนดิจิทัล ซึ่งมีความเสี่ยงในการถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน และอยู่ระหว่างพิจารณาแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพื่อกำหนดให้ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล เป็นผู้มีหน้าที่รายงานตามกฎหมายของ ปปง. โดยนำหลักการมาตรฐานสากลด้านการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินมาปรับใช้ในการกำกับ อาทิ ข้อกำหนดให้ประเมินความเสี่ยงเรื่องการฟอกเงิน กำหนดให้พิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าที่มาแลกเปลี่ยนเงินและข้อมูลผู้รับประโยชน์ ให้รายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย และให้เก็บรักษาเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการทำธุรกรรมและข้อมูลลูกค้าทั้งหมด ทั้งนี้ การดำเนินการของปปง. ก็เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการด้านป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเท่านั้น มิได้เป็นการรองรับหรือให้หลักประกันในทางธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุนใน เงินดิจิทัลแต่อย่างใด

ทางด้าน พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธานคณะกรรมการ ปปง. กล่าวว่า ปปง.แจ้งเตือนประชาชนถึงความเสี่ยงในการลงทุนหรือซื้อขายสินค้าที่มีความผันผวนและมีความเสี่ยงสูงมาก ดังนั้นพี่น้องประชาชนควรพิจารณาความเสี่ยงของในการใช้เงินดิจิทัลด้วย เนื่องจากประเทศไทยยังไม่ได้รับรองความเป็นสกุลเงินตามกฎหมายและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายไทย นอกจากนี้ ผู้ลงทุนอาจถูกหลอกลวงเป็นเครื่องมือเพื่อใช้ในการกระทำความผิด เช่น การหลอกลวงให้ลงทุนแชร์ลูกโซ่

อย่างไรก็ตาม ปปง. ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการลงทุนในรูปแบบต่างๆ อย่าหลงเชื่อผู้ชักชวนให้ลงทุนกับธุรกิจที่มีลักษณะลงทุนน้อยแต่ได้ผลประโยชน์สูง เพราะส่วนใหญ่จะมีรูปแบบใน การหลอกลวงให้ได้รับผลประโยชน์จำนวนมากในช่วงแรกที่เริ่มลงทุน ต่อมาจะมีการหยุดจ่ายและปิดกิจการ โดยอ้างว่าขาดทุน เมื่อผู้ลงทุนทวงถามเงินคืนจะไม่คืนไม่สามารถติดต่อได้. ดังนั้นจึงต้องระวังไม่ว่าจะเป็นการเชิญชวนผ่านเฟซบุ๊ก ไลน์ เพื่อน หรือญาติสนิท เพราะอาจถูกขบวนการมิจฉาชีพหลอกเป็นทอด ๆ และอาจสูญเงินได้ เนื่องจากสถิติที่ผ่านมา ปปง. ได้รับแจ้งเรื่องร้องทุกข์ผ่านสายด่วน ปปง. 1710 พบว่ามีประชาชนจำนวนมาก ถูกหลอกลวงให้ลงทุนและสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อมาได้ที่สายด่วน ปปง. 1710