ภาคธุรกิจสหรัฐเชื่อมั่นศก.จีนโตยั่งยืน

ภาคธุรกิจสหรัฐเชื่อมั่นศก.จีนโตยั่งยืน

หอการค้าสหรัฐในจีนเปิดเผยผลการสำรวจสมาชิกประจำปี พบว่า บรรรดาบริษัทสหรัฐที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศจีนยังคงเชื่อมั่นว่า จีนจะเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้นในอีกไม่กี่ข้างหน้า ในขณะเดียวกันยังรู้สึกว่าไม่ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากรัฐบาลจีน

ผลสำรวจบ่งชี้ว่า นักธุรกิจสหรัฐมีมุมมองที่เป็นบวกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนของจีน โดย 46% ของผู้ตอบแบบสอบถามมั่นใจว่ารัฐบาลจีนจะเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ 34%

หอการค้าสหรัฐระบุในผลสำรวจว่า การบังคับใช้กฎหมายและข้อบังคับอย่างเท่าเทียมโดยไม่คำนึงถึงสัญชาติของผู้ถือหุ้น และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเปิดรับการลงทุนนั้น เป็นสิ่งจำเป็นในการลดความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

หอการค้าฯ กล่าวว่า “หลังจากการลงทุนชะลอตัวลงมาเป็นเวลาหลายปี บริษัทต่างๆเริ่มขยายการลงทุนกันมากขึ้น แต่การเติบโตของการลงทุนยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าในอดีตที่ผ่านมา”

การสำรวจครั้งนี้จัดทำขึ้นเมื่อเดือนต.ค.-พ.ย.ปีที่แล้ว ด้วยการส่งแบบสอบถามไปยังสมาชิก 849 คน และมีผู้ตอบแบบสอบถามกลับมาจำนวน 411 คน ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวไม่รวมถึงบริษัทสหรัฐจำนวนมากที่ถูกแยกออกจากตลาดจีนเนื่องด้วยกฎข้อบังคับของรัฐบาล

นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถาม 36% ยังเชื่อว่าอีกว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐจะดีขึ้น เมื่อเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ 17% ซึ่งหอการค้าชี้ว่าเป็นผลมาจากการเดินทางเยือนจีนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่าการเดินทางเยือนจีนของปธน.ทรัมป์ไม่ได้ช่วยลดความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างมีนัยสำคัญ แต่กลับทำให้ทรัมป์เข้ามามีบทบาทมายิ่งขึ้นในจีน โดยล่าสุดเขาได้ออกมาประกาศว่ากำลังพิจารณาสอบสวนจีนในเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อหามาตรการจัดการกับจีนต่อไป