PTTGC - ซื้อ

PTTGC - ซื้อ

สองไตรมาสที่เฉิดฉายรออยู่ข้างหน้า

นับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน ราคาหุ้น PTTGC ปรับตัวดีกว่าทั้งกลุ่มปิโตรเคมี และ SET หนุนโดยคาดการณ์การเติบโตอย่างโดดเด่นของกำไรไตรมาส 4/60 อีกทั้งเราเชื่อว่าหุ้นยังมีโอกาสไปต่อได้อีกเนื่องจากภาพไตรมาส 1/61 ก็ดูดีเช่นกัน หนุนโดยการดำเนินการผลิตเต็มกำลัง, ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง และการรับรู้รายได้จากกิจการที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ทั้งนี้มูลค่าหุ้น PTTGC ยังอยู่ในระดับต่ำ – ซื้อขายที่ PER ปี 2561 ที่ 10.6 เท่า ต่ำกว่าทั้งค่าเฉลี่ยระยะยาวของบริษัทที่ 11.2 เท่า และค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 13.3
เท่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ประเมินด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสดที่ 116 บาท (WACC ที่ 10.1%, terminal growth ที่ 2.0%)

ไตรมาส 4/60 ... คาดตัวเลขออกมาใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเดิม

เราคาด PTTGC จะรายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 4/60 ที่ 11,539 ล้านบาท เติบโต 18% YoY และ 16% QoQ หากไม่รวมคาดการณ์กำไรจากสต็อกน้ำมันที่ 393 ล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 75 ล้านบาท ประมาณการกำไรหลักอยู่ที่ 11,071 ล้านบาท สูงขึ้น 31% YoY และ 23% QoQ – ใกล้เคียงกับตัวเลขในไตรมาส 1/60 (ซึ่งกำไรหลักสูงสุดเป็นประวัติกาล) ปัจจัยหนุนการเติบโตของกำไรหลัก ได้แก่ 1) ปริมาณขายปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น (ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานและผลผลิตอะโรเมติกส์ที่ดีขึ้นจาก
โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพ), 2) ค่าการกลั่นสูงขึ้น YoY, 3) ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีบางชนิดขยายตัว และ 4) การรับรู้รายได้จากสินทรัพย์ที่ซื้อจาก PTT (ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานตามแผนและส่วนต่างราคาขยายตัว)

แนวโน้มกำไรหลักไตรมาส 1/61 แข็งแกร่งต่อเนื่อง

คาดกำไรหลักจะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 1/61 หนุนโดยอัตราการใช้กำลังการผลิตเต็มกำลังของโรงงานทุกแห่ง, การขยายกำลังการผลิต, การรับรู้รายได้จากสินทรัพย์ที่ซื้อจาก PTT (แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2560) และส่วนต่างราคาโอเลฟินส์แข็งแกร่ง ในขณะที่โรงกลั่นจะดำเนินงานเต็มกำลังการผลิต เราคาดปริมาณขายปิโตรเคมีจะสูงขึ้น YoY (ทรงตัว QoQ) เนื่องจากไม่มีแผนการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน และได้รับวัตถุดิบก๊าซจาก PTT มากขึ้น อีกทั้งโรงงาน mLLDPE ใหม่ขนาดกำลังการผลิต 400,000 ตันต่อปี ที่จะเริ่มดำเนินงานในไตรมาส 1/61 จะช่วยเพิ่มปริมาณขายด้วย

สำหรับส่วนต่างราคานั้น ปัจจัยทางฤดูกาลและราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นหนุนให้ราคาปิโตรเคมีและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ส่วนมากปรับตัวสูงขึ้นนับจากต้นไตรมาส 1/61 จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนมากจึงทรงตัว YoY (ขยายตัว QoQ) ผลประกอบการของธุรกิจปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้นคาดว่าจะสามารถกลบผลกระทบจากกำไรของธุรกิจโรงกลั่นที่ลดลง (เนื่องจากค่าการกลั่นต่ำลง) ดังนั้นคาดกำไรหลักไตรมาส 1/61 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ

FID ของโครงการใหม่หนุนให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรระยะยาว

แม้เราคงประมาณการกำไรสุทธิสำหรับปี 2561 ที่ 40,098 ล้านบาทไว้ตามเดิม (สูงกว่าคาดการณ์ตลาด 6% [ตลาดปรับเพิ่มประมาณการกำไรมาแล้ว 9% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา]) เราปรับประมาณการกำ ไรระยะยาวเพิ่มขึ้น 20% เพื่อสะท้อนกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากโครงการ olefins reconfiguration (เป็นเอธิลีน 500,000 ตันต่อปีและโพรพิลีน 250,000 ตันต่อปี; จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในครึ่งหลังของปี 2563) ซึ่ง PTTGC ได้อนุมัติการลงทุนขั้นสุดท้ายไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยบริษัทจะมีกำลังการผลิตโอเลฟินส์เพิ่มขึ้น 25% มาอยู่ที่ 3.7 ล้านตันต่อปี และกำลังการผลิตปิโตรเคมีโดยรวมจะสูงขึ้น 8% มาอยู่ที่ 8.9 ล้านตันต่อปี อีกทั้งยังมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรปี 2561 ของเราหากส่วนต่างราคาปิโตรเคมีแข็งแกร่งกว่าคาด และมีอัพไซด์ต่อคาดการณ์กำไรระยะยาวของเราจากการลงทุนในโครงการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำ (มูลค่าเพิ่มจากโครงการปิโตรเคมีต้นน้ำที่กล่าวมาข้างต้น)