เพิกถอนโฉนดที่ดินโรงแรมหรูจ.ตรัง มูลค่าหลายร้อยล้าน

เพิกถอนโฉนดที่ดินโรงแรมหรูจ.ตรัง มูลค่าหลายร้อยล้าน

ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทรณ์ให้กรมอุทยานฯชนะคดี เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ น.ส.3ก. และโฉนดที่ดิน โรงแรมหรูริมชายหาดฉางหลาง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง มูลค่าหลายร้อยล้าน

เมื่อวันที่ 25 ม.ค.61 ที่ศาลจังหวัดตรัง นายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้เดินทางไปรับฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาตามที่กรมอุยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เป็นโจท์ยื่นฟ้องบริษัท เจบีบี จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ตามเอกสาร น.ส.3ก.เลขที่ 793 และโฉนดที่ดินเลขที่ 10548 และให้ขับไล่จำเลยและบริวาร พร้อมกับรื้อถอนและขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ดังกล่าว เนื้อที่รวมกว่า 37 ไร่ ซึ่งปัจจุบันเป็นโรงแรมหรู ระดับ 5 ดาว แห่งเดียวริมชายหาดฉางหลาง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ซึ่งเปิดดำเนินธุรกิจรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป โดยกรมอุทยานแห่งชาติฯได้เป็นโจทย์ยื่นฟ้องขับไล่โรงแรมดังกล่าว ว่าออกเอกสารสิทธิมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวถูกกำหนดเป็นพื้นที่ป่า สงวนแห่งชาติ ป่าคลองไหโล๊ะ ป่าเลนคลองปอ และป่าเลนคลองหละ หมู่ที่ 5 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา พร้อมกับเรียกค่าเสียหายจำนวนกว่า 4.4 ล้านบาท

นายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ซึ่งเป็นตัวแทนของกรมอุทยานฯ ที่เดินทางเข้ารับฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาในวันนี้ กล่าวว่า ศาลจังหวัดตรังได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาในวันนี้ โดยศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว เพราะออกมิชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งจำเลยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย เนื่องจากเป็นคนไปซื้อที่ดินต่อมาเท่านั้น จึงไม่ทราบที่มาของเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวว่าออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่กรมอุทยานฯ ส่วนรายละเอียดและการดำเนินการต่อไปของอุทยานฯ จะต้องรอการคัดสำนวนจากคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้ง ยังไม่สามารถจะตอบรายละเอียดได้ เพราะยังไม่เห็นสำนวนคำพิพากษา และยอมรับว่าขณะนี้ ยังมีพื้นที่บุกรุกครอบครองในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมอีกหลายแปลง ที่ทางอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เตรียมเดินหน้าหน้าฟ้องร้องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์และยึดคืนที่ดินต่อไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับเอกสารสิทธิ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูดังกล่าวนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2558 ศาลอุทธรณ์ ภาค 9 พิพากษาให้กรมอุทยานฯพลิกกลับมาเป็นฝ่ายชนะ โดยศาลมีคำสั่งให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ น.ส.3ก. และโฉนดที่ดินเลขที่ดังกล่าวออกจากสารบบที่ดิน พร้อมกับสั่งให้รื้อถอนโรงแรม และขนย้ายทรัพย์สินออกจากโฉนดที่ดินเลขแปลงที่ดังกล่าว และต่อมาทางกรมอุทยานฯได้ยื่นฟ้องศาลฎีกาต่อ จนกระทั่งในวันนี้ ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสาร น.ส.3ก. และโฉนดที่ดินดังกล่าวออกจากสารบบที่ดิน และสั่งรื้อถอนโรงแรมรวมทั้งทรัพย์สินบนที่ดินแปลงดังกล่าวทั้งหมดต่อไป