ปส.จับยาเสพติดบิ๊กล็อตติด 7 คดี ยึดของกลางอื้อ

ปส.จับยาเสพติดบิ๊กล็อตติด 7 คดี ยึดของกลางอื้อ

ปส. แถลงจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 7 คดี ผู้ต้องหา 17คน ของกลางเป็น กัญชา 510 กก. ไอซ์ 500 กก. ยาบ้า 288,000 เม็ด และโคคาอีน 10.41 กก.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ม.ค.61 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป.1), พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส., พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.,เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร, เจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันแถลงจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด รายสำคัญ จำนวน 7 คดี

โดยคดีที่ 1 จับกุม 1.นายเกียรติศักดิ์ โทนสี อายุ 37 ปี 2.นายชุมพล จันทร์โต อายุ 50 ปี พร้อมของกลาง กัญชาอัดแท่ง จำนวน 12 กระสอบ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 510 กก. โดยจับกุมได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร จากการขยายผล สามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมอีก 3 คน คือ 1. นายสนกิมรี ชูฉางหวาง อายุ 52 ปี , 2นายอับดุลการิม มะนูยา อายุ 41 ปี , 3 นายศิริชัย สลำบ่อ อายุ 40 ปี ชาว จว.สงขลา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบจำนวน 13 ล้านบาท

คดีที่ 2.เจ้าหน้าที่จับกุม 1. นายพรสิทธิ์ ชุมพงศ์ อายุ 36 ปี 2. นายมานิตย์ สุวรรณมณี อายุ 36 ปี 3. นายนิคม ขีดสำโรง อายุ 53 ปี 4. นายสือลี แวยูโซะ อายุ 40 ปี 5. น.ส.อัสนิดา เจ๊ะแม อายุ 41 ปี6. น.ส.อาซียะห์ เจ๊ะแม อายุ 30 ปี 7. นายอาซีซี เจ๊ะแม อายุ 44 ปี พร้อมด้วยของกลาง 1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม 2. รถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา จำนวน 1 คัน 3. รถยนต์นั่งสอง ตอนท้ายบรรทุก ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ จำนวน 1 คัน 4. รถยนต์เก๋ง จำนวน 1 คัน 5. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น CITY สีเทา จำนวน 1 คัน 6. รถยนต์นั่งสองตอนแวน ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น CRV สีดำ จำนวน 1 คัน 7. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 9 เครื่อง โดยผู้ต้องหารายนี้มีการลำเลียงยาเสพติดล๊อตใหญ่จากภาคอีสานลงสู่ภาคใต้

ส่วนคดีที่ 3 จับกุม 1. นายศรชัย ธิดาภารุ่งเรือง อายุ 33 ปี พร้อมด้วยของกลาง 1. ยาบ้า ประมาณ 288,000 เม็ด , 2. รถยนต์กระบะบรรทุก จำนวน 2 คัน โดยสามารถจับกุมได้บริเวณถนนพหลโยธิน กม.ที่ 590 ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จว.ลำปาง

คดีที่ 4 จับกุม 1. นายจีซัส อันโบโต เซจัสกาเซีย (MR.JESUS ALBERTO SEIJAS GARCIA) อายุ 59 ปี สัญชาติเวเนซุเอลา พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน (COCAINE) ลักษณะเป็นผงสีขาว บรรจุในถุงพลาสติกสีดำ พันพลาสติกใส พันเทปกาวสีน้ำตาล น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 4,180 กรัม ซุกซ่อนในพื้นกระเป๋าเดินทางแบบลากจูงสีเทา ยี่ห้อ SWISSCROSS ใช้ซุกซ่อนของกลาง โดยจับกุมได้ที่ อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จว.สมุทรปราการ

ทั้งนี้ ผู้ต้องหา เดินทางมาสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ ET618 เดินทางจากเมืองแอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และพบนายจีซัสฯ จะเดินทางต่อเครื่องไปยังสาธารณรัฐประธิปไตยประชาชนลาว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ติดตามตรวจสอบกระเป๋าเดินทางของ นายจีซัสฯ ชนิดลากจูงสีเทา นำเข้าเครื่องอ็กซ์เรย์ พบสิ่งผิดปกติซุกซ่อนใต้พื้นกระเป๋าฯ จากการตรวจที่ใต้พื้นกระเป๋าฯ กระทั้งพบของกลาง

คดีที่ 5 จับกุม 1. นายเดสต้า แทมราท กาเบลโต้ (MR.DESTA TAMRAT KALBETO) สัญชาติเอธิโอเปีย พร้อมด้วยของกลาง1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน (COCAINE) ลักษณะเป็นผงสีขาว บรรจุในถุงพลาสติกสีดำ พันพลาสติกใส พันเทปกาวสีน้ำตาล จำนวน 2 แผ่น น้ำหนักประมาณ 3,120 กรัมซุกซ่อนภายในช่องลับของกระเป๋าเดินทางแบบลากบริเวณผนังด้านข้างของทั้ง 2 ข้าง จับกุมได้ที่บริเวณช่องตรวจไม่มีสิ่งของต้องสำแดงของศุลกากร(ช่องเขียว) ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ตรวจสอบผู้โดยสารสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ ET628 เดินทางจากเมืองแอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้ามาบริเวณช่องตรวจไม่มีสิ่งของต้องสำแดงของศุลกากร(ช่องเขียว) จากนั้นได้ ขอให้ผู้โดยสารดังกล่าวนำสัมภาระเข้าเครื่องเอกซเรย์ เบื้องต้นพบว่ามีสิ่งผิดปกติในกระเป๋าเดินทางดังกล่าว จนพบของกลาง

คดีที่ 6 จับ 1. นางสาวเบธเลม ไฮลีมาเลียม มิชาโม่ (MS.BETELHEM HAILEMARIAM MISHAMA) สัญชาติเอธิโอเปีย พร้อมด้วยยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน (COCAINE) ลักษณะเป็นผงสีขาว บรรจุในถุงพลาสติกสีดำ พันพลาสติกใส พันเทปกาวสีน้ำตาล จำนวน 2 แผ่น น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 3,115 กรัม ซึ่งซุกซ่อนภายในช่องลับของกระเป๋าเดินทางแบบลากบริเวณผนังด้านข้างของทั้ง 2 ข้าง , 2. กระเป๋าเดินทางแบบลากจูง จำนวน 1 ใบ จับกุม บริเวณช่องตรวจไม่มีสิ่งของต้องสำแดงของศุลกากร(ช่องเขียว) ขาเข้าระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ทางจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ตรวจสอบผู้โดยสารสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ ET628 เดินทางจากเมืองแอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย และเดินทางมาบริเวณช่องตรวจไม่มีสิ่งของ จากการตรวจสอบบริเวณด้านข้างกระเป๋าทั้ง 2 ข้าง พบวัตถุต้องสงสัยมีลักษณะเป็นแผ่นแข็งสีน้ำตาล ภายในบรรจุผงสีขาว ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าเดินทาง น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 3,115 กรัม

คดีที่ 7 ยาเสพติดให้โทษ จำนวน 1 ราย คือ 1. นายองอาจ เลาว้าง อายุ 32 ปีพร้อมของกลาง จำนวน 1 รายการ 1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม , 2. รถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา จำนวน 1 คัน สถานที่เกิดเหตุจับกุม ริมทางหลวงหมายเลข 41 (เอเซีย) ระหว่าง กม.8-9 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จว.ชุมพร จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.สมหมาย เปิดเผยว่า กรณีที่ บช.ปส.จับไอซ์ 300 กก. ที่ส่งภาคใต้นั้น คาดว่าพวกนี้จะมาจากกลุ่มลำน้ำโขงทั้งหมด พัฒนามาจากกลุ่มค้าไม้พะยูง ค้าสุนัข เป็นที่น่าสังเกตว่า ตอนนี้คนส่งลำเลียงยาเสพติด ไม่ได้มาจากภาคเหนือ แต่มาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะต้องการหลบด่านตรวจ และไม่อยากถูกจับกุม ส่วนที่ขนลงภาคใต้จะเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดหรือไม่ เป็นเรื่องความมั่นคงตนไม่ขอพูดถึง แต่ดูแล้วว่าเกี่ยวกันแน่ เพราะหลังจากมีเหตุระเบิดก็จะมีของออก และรอออกอีก หากเจ้าหน้าที่จับไม่ได้ จะต้องมียาเสพติดน้ำหนักเป็นตันออกนอกประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเราประสานกับหน่วยงานยาเสพติดกับประเทศมาเลเซีย มาโดยตลอด ถ้าการขนยาเสพติดรอบนี้หลุดเราไปได้ ทางมาเลเซียก็สามารถเข้าจับกุมได้ทันที

นอกจากนี้ กรณีหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) จับยาบ้าได้ 11 ล้านเม็ดที่ จ.นครพนม ซึ่งก็มีการประสาน บช.ปส.มาโดยตลอดเช่นกัน ซึ่งตอนเข้าจับกุมมีผู้ต้องสงสัย 1 คนบนเรือ เพราะว่ายน้ำไม่เป็น ส่วนที่เหลือหนีหมด ขณะนี้ ทาง สปป.ลาว ให้ข้อมูลมาว่า สามารถกักตัวคนที่อยู่ในระดับสั่งการได้แล้ว

พล.ต.ท.สมหมาย เปิดเผยอีกว่า การที่ยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก แสดงว่าความต้องการยังมีอยู่มาก ตนกำลังทำเรื่องเสียงแทนจากลำน้ำโขง เพื่อจะบอกว่า ต้นไม้พิษที่อยู่ตรงนั้นคือใคร ซึ่งตอนนี้รู้ตัวแล้ว บอกได้แค่ว่าใหญ่มาก ใหญ่กว่านายไซซะนะ แก้วพิมพา และท้าวสีสุดอีก ทั้งนี้ ปี 2560 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กวาดล้างยาเสพติด ทำให้ตอนนี้เครือข่ายปั่นป่วน แต่ที่ตนห่วงมากที่สุด คือ กลัวมีการเปลี่ยนค่าสกุลเงินเป็นบิทคอยน์ ซึ่งเรากำลังอบรมเรื่องนี้อยู่ ส่วนการลักลอบขนผ่านระบบโลจิสติกส์ นั้น เจ้าหน้าที่ตรวจได้ยาก เพราะมีกฎหมายเฉพาะ และเราตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ไม่ได้ ต้องพึ่งกรมศุลกากรเป็นหลัก เนื่องจากมีเครื่องเอกซเรย์ ซึ่งก็มีการร่วมมือกันมาตลอด

พล.ต.ท.สมหมาย เปิดเผยด้วยว่า การจับโคเคนทั้ง 3 คดี ตรวจสอบแล้วมีความเชื่อมโยงกัน แสดงว่า ขบวนการเรื่องโคเคนชะล่าใจ ตนเชื่อว่าหลุดไปมาก แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ผนึกกำลังกันก็จับได้มากขึ้น ซึ่งครั้งนี้พบว่าผู้ขนมีรูปแบบใหม่ โดยซุกซ่อนมากับกระเป๋าเดินทาง สำหรับสถานการณ์โคเคนในประเทศไทยไม่ระบาดมากนัก ความนิยมส่วนใหญ่อยู่ในแวดวงไฮโซ คนธรรมดาซื้อไม่ได้เพราะราคาแพง ส่วนจะมีดาราเกี่ยวข้องหรือไม่ยังไม่พูด บอกแค่มีแน่ คนพวกนี้มีเงินมาก จะไม่ขายแต่เสพ ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อมูลของ ป.ป.ส.ว่า ตอนนี้มีคนเสพเฮโรอีนมากกว่ายาบ้า ทาง บช.ปส.คิดเห็นอย่างไร ผบช.ปส.ตอบว่า แสดงว่าเจ้าหน้าที่จับกุมยาบ้าอยู่หมัด ทำให้เฮโรอีนทะลักเข้ามา ซึ่งตามปกติ เฮโรอีนผลิตยากกว่ายาบ้า ต้องสกัดจากฝิ่นที่มีพื้นที่ปลูกน้อยลง และค่านิยมคนเสพชอบของใหม่ๆ รวมถึงของที่หายาก