ทอท.ภูเก็ตติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม กันพนักงานลักทรัพย์ผู้โดยสาร

เมื่อวันที่ 24 ม.ค.61 นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เปิดเผย “ผู้สื่อข่าว”ว่าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 มีเหตุลักขโมยทรัพย์สินผู้โดยสาร หลังจากได้รับเรื่องทางท่าอากาศยานภูเก็ตก็ได้ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ทหารบก ตำรวจ สภ.สาคู และตำรวจท่องเที่ยว มีการตรวจสอบและติดตามจนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ และมีการขยายผลมาตลอด ซึ่งในช่วงนั้นก็จะมุ่งเน้นตรวจสอบที่การลักขโมยสิ่งของในกระเป๋าสัมภาระระหว่างการขนย้ายจากอากาศยานเข้ามายังตัวอาคาร ซึ่งมีการตรวจจับและเข้มงวดตรวจตามากขึ้น ทำให้สถานการณ์คลี่คลายไป หลังจากทิ้งช่วงมาประมาณ 3 เดือน ในช่วงต้นเดือนตุลาคมได้มีการสุ่มตรวจ และมีการหาข่าววงในมาระยะหนึ่ง กระทั่งพบว่ามีพนักงานของบริษัทเอ้าท์ซอร์สแห่งหนึ่งมีพฤติกรรมในการลักขโมยทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว จึงได้มีการเข้าไปตรวจสอบในระหว่างการปฏิบัติงานในเขตลานจอดอากาศยานและสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของผู้โดยสาร และได้ส่งตัวให้ สภ.สาคูดำเนินคดีตามกฎหมาย

“หลังจากที่มีการตรวจสอบมาอย่างต่อเนื่อง และมีการกำหนดมาตรการต่างๆ ออกมาอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจสอบในระหว่างที่มีการลำเลียงสัมภาระของผู้โดยสารมายังห้องคัดแยกกระเป๋า ทำให้กลุ่มผู้ที่จะกระทำผิดเปลี่ยนรูปแบบในการดำเนินการ โดยหันไปขโมยสิ่งของที่คลังสินค้าแทน ซึ่งก็พอมีข้อมูลอยู่บ้างแต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน และได้มีการวางแผนเพื่อทำการจับกุม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีกลุ่มพนักงานเอ้าท์ซอร์สได้ก่อเหตุลักขโมยสินค้าที่กำลังจะส่งไปต่างประเทศ จึงได้มีการเข้าไปจับกุมจำนวน 2 คน และขยายผลไปยังบ้านพักพบผู้ผู้ก่อเหตุอีก 1 คน รวมเป็น 3 คน รวมทรัพย์สินที่ลักขโมยไป 72 รายการ โดยกรณีนี้ไม่ได้ขโมยมาจากกระเป๋าผู้โดยสารแต่เป็นการลักขโมยในคลังสินค้า”

นายเพ็ชร กล่าวด้วยว่า ในส่วนของมาตรการต่างๆ นั้นได้มีการพูดคุยกันมาโดยตลอดว่า กรณีที่สายการบินหรือบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากท่าอากาศยานภูเก็ต รับพนักงานเอ้าท์ซอร์สเข้ามาใหม่ขอให้มีการตรวจสอบประวัติหรือในกรณีที่มีการยกเลิกหรือจับได้ว่าพนักงานคนใดที่ลาออกไปหรือถูกให้ออกก็ขอให้ส่งรายชื่อให้กับทางการท่าฯ ด้วย เพื่อจะได้มีแบล็คลิสไว้ หรือเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้กระทำผิดกลับมาทำงานในท่าอากาศยานอีก ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าขณะนี้ในส่วนของการท่าฯ ภูเก็ตอยู่ระหว่างการปรับปรุง และมีโครงการในการติดตั้งกล้องซีซีทีวีให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่มุมอับหรือพื้นที่ปฏิบัติงาน ซึ่งเร่งดำเนินการอยู่ ที่สำคัญคือ บริเวณช่องทางต่างๆ จะมีการเข้มในการตรวจค้นตัวพนักงานที่จะเข้าไปปฏิบัติงาน รวมถึงบัตรประจำตัวผู้ปฏิบัติงาน เพราะจะดูผ่านๆ ไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันเทคนิคการปลอมแปลงเอกสารจะมีค่อนข้างมาก ตลอดจนยานพาหนะที่ผ่านช่องทางก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด นอกจากนี้ยังมีการจัดสายตรวจเข้าไปสุ่มตรวจในลานจอดอากาศยานหรือพื้นที่ต่อเนื่อง และอีกประการคือ ขอความร่วมมือกับทางบริษัทสายการบินหรือบริษัทเอ้าท์ซอร์สต่าง ๆ ต้องช่วยตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย เพราะลำพังท่าอากาศยานหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามากำกับดุแลคงทำได้ค่อนข้างลำบาก จึงต้องช่วยกัน และทราบว่าทางสายการบินและบริษัทเอ้าท์ซอร์สเองก็พยายามมีการตรวจสอบ โดยมีการติดตั้งกล้องซีซีทีวีเพิ่มเติม และในการปฏิบัติงานก็มีความเข้มงวดเพ่งเล็งพนังกานที่ต้องสงสัย ซึ่งถือว่าเป็นการให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน