ทอท.ไฟเขียว 'กลุ่ม LOXLEY' ติดตั้งสายพานฯสุวรรณภูมิ

ทอท.ไฟเขียว 'กลุ่ม LOXLEY' ติดตั้งสายพานฯสุวรรณภูมิ

"ทอท." ไฟเขียว "กลุ่ม LOXLEY" ติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าตามโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ในการประชุมคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ครั้งที่ 1/2561 ซึ่งมีนายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ ทอท. เป็นประธาน ที่ประชุมมีมติสรุปได้ดังนี้

งานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) (BHS & EDS) ตามโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ ‭2554 – 2560‬)

คณะกรรมการ ทอท.อนุมัติให้ ทอท.จ้างนิติบุคคลร่วมทำงาน ล็อกซเล่ย์-แอลพีเอส เป็นผู้รับจ้างงานซื้อ พร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) (BHS & EDS) ตามโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ ‭2554 – 2560‬) ตามที่ ทอท.เสนอ

ตามที่ ทอท.อยู่ระหว่างดำเนินการโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ ‭2554 – 2560‬) แบ่งเป็น 7 งานก่อสร้าง ประกอบด้วย (1) งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 B1 และ ชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งาน โครงสร้าง และระบบหลัก) (2) งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2-4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ ด้านทิศใต้ (งานระบบย่อย) (3) งานจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก (4) งานจ้างก่อสร้างขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (5) งานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค (6) งานซื้อ พร้อมติดระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) (7) งานซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และ ระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) (8) งานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน (CSC) ปัจจุบันมีความคืบหน้าเป็นลำดับนั้น

เมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ทอท.ได้เปิดประมูลงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) (BHS & EDS) และเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2560 ทอท.ได้เปิดซองการประกวดราคางานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) (BHS & EDS) โดยมีผู้สนใจเข้ายื่นซองเสนอราคา จำนวน 3 ราย คือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) นิติบุคคลร่วมทำงาน ล็อกซเล่ย์-แอลพีเอส และเอวีที คอนซอร์เตรียม ซึ่งจากการพิจารณาคัดเลือกงาน ที่มีคุณภาพ มีคุณสมบัติถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อ ทอท. ปรากฏว่านิติบุคคลร่วมทำงาน ล็อกซเล่ย์-แอลพีเอส เป็น ผู้ที่เสนองานติดตั้งระบบฯ ที่มีเทคนิคดีกว่าผู้เสนอราคารายอื่นและเสนอราคาต่ำสุด เป็นเงิน 3,646,789,999.99 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7) ซึ่ง ทอท.ได้เจรจาต่อรองราคาลงเหลือเป็นเงิน 3,646,560,000.-บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้อยละ 7) ต่ำกว่าราคากลาง คิดเป็นร้อยละ 4 หรือประหยัดงบประมาณลงได้กว่า 152,201,176.38 บาท

อนึ่ง โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ ‭2554 – 2560‬) สามารถเพิ่มขีดความสามารถ ในการรองรับการให้บริการผู้โดยสารจากปัจจุบัน 45 ล้านคน เป็น 60 ล้านคน และคาดว่าโครงการฯ จะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2562 ทั้งนี้ จากการที่ ทอท.ได้นำโครงการดังกล่าว เข้าร่วมเป็นโครงการต้นแบบตามโครงการของ Construction Sector Tranparency Initiative (Cost) ปรากฏว่า ทอท.สามารถประหยัดงบประมาณไปได้กว่า 10,641 ล้านบาท โดยมิได้มีการปรับลดเนื้องานหรือคุณภาพลงแต่อย่างใด