รวบ 5 ขาใหญ่ 2 แก๊งไล่ยิงกันสนั่นกลางเมืองหาดใหญ่

รวบ 5 ขาใหญ่ 2 แก๊งไล่ยิงกันสนั่นกลางเมืองหาดใหญ่

รวบแล้ว 5 ขาใหญ่ 2 แก๊งไล่ยิงกันสนั่นกลางเมืองหาดใหญ่ แจ้ง 3 ข้อหาหนัก-คัดค้านการประกัน

จากกรณีเกิดเเหตุกลุ่มนักเลงอันธพาลขาใหญ่ 2 แก๊งในอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขับรถเก๋ง 3 คัน ไล่ยิงถล่มกันสนั่นเมืองหาดใหญ่เกือบ 20 นัด เมื่อคืนวันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา แต่โชคดีที่ไม่มีใครถูกลูกหลงบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่มีรถชาวบ้านถูกยิงเสียหาย 4 คัน

ล่าสุดวันนี้ 24 ม.ค. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 แถลงข่าวสรุปความคืบหน้าของคดีนี้ โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 2 วันก็สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้วทั้งสองแก๊ง จำนวน 5 คน แต่ไม่ได้มีการนำผู้ต้องหามาแถลงข่าว
ทั้ง 5 คนประกอบด้วย แก๊งอ้วนเซียงตึ้ง จำนวน 3 ส่วนแก๊งสักผาสุก มี 3 คนที่ยังจับไม่ได้

นอกจากนี้ ยังมีของกลางสำคัญที่ยึดได้ประกอบด้วยอาวุธปืน 9มม .2 กระบอกพร้อมกระสุน 18 นัด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุภาพจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งรถเก๋งอีก 3 คัน เป็นรถเก๋งของแก๊งอ้วนเซียงตึ้ง 2 คัน คือรถเก๋งฮอนด้ารุ่นแอคคอร์ด สีขาวทะเบียน กร-8163ภูเก็ต กับรถเก๋งฮอนด้ายาริส สีเทา ทะเบียน ขข-3544สงขลา และรถเก๋งของแก๊งสักผาสุก 1 คัน คือรถเก๋งมาสด้า3 สีเทา ทะเบียน กว-5386สงขลา

พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่จับกุมได้ทั้ง 5 คนมีทั้งรับสารภาพ และปฏิเสธและบางคนสารภาพเกินความจริง ซึ่งคดีเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐาน และพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน และอาจจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมเพราะในคืนเกิดเหตุมีผู้ที่นั่งอยู่ในรถมากกว่านี้ และคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว

เบื้องต้นได้แจ้งดำเนินคดีใน 3 ข้อหา พยายามฆ่า มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และบางคนอาจจะถูกแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จเพราะพบพิรุธจากคำให้การที่เข้าข่ายรับผิดแทน

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 ยังกล่าวว่า นอกจากคดีไล่ยิงกันแล้วเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบประวัติย้อนหลังว่าแต่ละคนเคยก่อคดีหรือเกี่ยวข้องกับคดีอื่นๆอีกหรือไม่โดยเฉพาะยาเสพติด รวมทั้งอาวุธปืนที่ยึดได้ทั้งสองกระบอกก็จะตรวจสอบว่าเคยถูกนำไปใช้ก่อเหตุในคดีใดบ้าง ซึ่งการจับกุมหัวหน้าทั้งสองแก๊ง รวมทั้งลูกน้องถือเป็นการปิดฉากแก๊งอันธพาลในเมืองหาดใหญ่ซึ่งเจ้าหน้าที่จะไม่ให้เกิดขึ้นอีก