MORNING CALL ACTION NOTES (24 ม.ค.61)

MORNING CALL ACTION NOTES (24 ม.ค.61)

ลงซื้อขึ้นขาย

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน ปรับตัวขึ้นสูงช่วงเช้าก่อนแกว่งตัวแดนบวกช่วงบ่าย ภายใต้ทั้งปัจจัยบวกจากต่างประเทศ โดยกลุ่ม BANK ENERG และ PETRO ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,831.78 จุด (+7.72 จุด) Volume 78.2 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +448 ลบ.  TFEX Net +3,173 สัญญา ตราสารหนี้ -319.10 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

-ดาวโจนส์ขยับลงโดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทรายใหญ่

+น้ำมันดิบปิดบวกหลัง IMF ประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้น

+BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ -0.1% ขณะเดียวกัน BOJ จะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรต่อเนื่อง

+/-Fund Flow ต่างชาติพลิกกลับมาซื้อ 448 ลบ. ขณะที่เงินบาทยังแข็งค่าสู่ 31.72  Bath/USD

**จับตาวันนี้ สหรัฐ อียู เปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ(PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.

ภาวะตลาดหุ้นไทยในวันนี้มีปัจจัยบวกจากการที่ IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นราคาปิดอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ส่วนปัจจัยกดดันมาจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับลง และตลาดหุ้นภูมิภาคผันผวน และ fund flow ผันผวน  ดังนั้นคาด SET จะปรับแก่วงตัวในกรอบ 1,820-1,838 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- IVL ราคาฝ้ายปรับตัวขึ้น 5.6%MoM สู่ระดับ 82.16 $/Pound

- TVO (ต้นทุน 90% เป็น US รับผลบวกบาทแข็ง / ราคากากถั่วหลือง 7 วัน รวม +8.6% )

- PTTEP PTTGC SGP ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง 64.47 $/bbl

- CENTEL ERW MINT นักท่องเที่ยว ธ.ค.ทำสถิติสูงสุดใหม่

- AMATA WHA ร่างพรบ.อีอีซีจะเข้าสู่ที่ประชุมสนช.ราวเดือนก.พ.

- หุ้นที่ผลประกอบจะเติบโตในไตรมาส 4/60 ANAN COMAN XO MALEE TWPC JUBILE AMA D SGP TRUE PTTEP PTTGC TPCH SYNEX IVL ASIMAR

หุ้นแนะนำพิเศษ

Analyst Meeting : KKP (ราคาปิด 83 บาท IAA Consensus สูงสุด 92 บาท)

  • ปี 60 มีกำไรสุทธิ 5,737 ลบ. +3.4% กำไรเบ็ดเสร็จซึ่งรวมมูลค่าหลักทรัพย์เผื่อขายจากธุรกิจตลาดทุน 6,114 ลบ. +6% เนื่องจากคชจ.สำรองหนี้สูญที่ลดลงถึง 67%YoY ซึ่งเป็นผลมาจาก NPL ลดลงต่อเนื่องทุกไตรมาส Coverage Ratio 109% อัตราส่วนสำรองพึงกันสูงถึง 189%
  • ผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อปี 61 เติบโต 10% ใกล้เคียงกับปี 60 ที่ขยายตัว 3% เป้า %NPL ลดลงต่อเนื่องเหลือต่ำกว่า 4.5% จาก 5% ในปี 60 โดยคงเป้า credit cost ใกล้เคียงกับเป้าเดิมที่ 1 – 1.2% แม้ปี 60 credit cost ที่ 0.8%
  • ธุรกิจตลาดทุนที่มีแนวโน้มดีช่วยสร้างรายได้ต่อเนื่องทั้งธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (รายได้ค่าธรรมเนียม +62%) ธุรกิจบริหารหนี้ (ราคาประเมินสินทรัพย์รอขายมีกำไร 120%) ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุน (สินทรัพย์ภายใต้กองทุนรวม +56%  สินทรัพย์ส่วนบุคคล +117% )  และธุรกิจ IB ที่จะเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจและตลาดทุน
  • ผู้บริหารปฏิเสธข่าวบล.ภัทรได้รับค่าธรรมเนียมจากกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ตามที่เป็นข่าวในนสพ.ก่อนหน้านี้
  • ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของรายได้และชอบที่ KKP มี yield สูง IAA Consensus คาด Yield เฉลี่ย 7.2% แนะนำถือรอรับเงินปันผล

หุ้นมีข่าว   

SGP Analyst Meeting (มุมมองบวก)

·        ดำเนินธุรกิจจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทั้งในประเทศไทยมีสัดส่วนรายได้ 38% และต่างประเทศ(จีน มาเลเซีย สิงค์โปร และเวียดนาม)มีสัดส่วนรายได้ 62% โดยผลประกอบการค่อนข้างผันผวนตามราคาก๊าซ LPG เนื่องจากมีคลังก๊าซ LPG ที่จีนราว 3 แสนตันส่งผลให้มีความเสี่ยงด้านราคาสินค้าเข้ามาเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังถือหุ้นในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในพม่า 36% กำลังการผลิต 230MW

·        ผู้บริหารมีแผนขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งการเข้าซื้อบริษัทจำหน่ายก๊าซ LPG ปลีกในต่างประเทศ และการลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเพื่อเพิ่มปริมาณการจำหน่ายและทำให้ต้นทุนในการบริหารจัดการปรับตัวลงจาก Economy of scale

·        9M60 รายงานกำไร 1.9 พันล้านบาท +774%YoY โดยปริมาณการจำหน่ายในต่างประเทศเติบโตราว 6% สู่ระดับ 1.56 ล้านบาท นอกจากนี้ได้รับผลบวกจากการปรับตัวขึ้นของก๊าซ LPG ในปี 60 ราว 42% สู่ระดับ 580 ดอลลาร์ต่อตัน

·        ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการใน 4Q60 ของบริษัท เนื่องจากในต่างประเทศมีความต้องการใช้ก๊าซLPGมากใน 4Q เพื่อสร้างความอบอุ่น อีกทั้งราคาก๊าซ LPG ในไตรมาส 4/60 ปรับตัวขึ้น 23% สู่ระดับ  580 ดอลลาร์ต่อตันซึ่งเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม

·        MALEE (ราคาปัจจุบัน 36.75 บาท Bloomberg Consensus 46.98 บาท) ล่าสุดจากดีลเข้าซื้อ LQSF (ผู้ผลิตเครื่องดื่มในเวียดนาม) มูลค่ารวม 330 ลบ. เป็นสัดส่วนการถือหุ้น 65% คาดปิดดีลเป็นทางการเดือน มิ.ย. 61 มีรายได้คิดเป็น 5 – 6% ของยอดขายรวมบริษัท และจะเพิ่มกำลังการผลิตให้บริษัทจาก 330 ล้านลิตร/ปี เป็น 630 ล้านลิตร/ปี โดยเป็นผลให้ MALEE มีฐานการผลิตเครื่องดื่มสำหรับตลาดประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันตั้งเป้ารายได้ปี 61 เติบโต 30%YoY (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·        ความเห็น เบื้องต้น ดีลดังกล่าวนับเป็นดีล M&A ดีลแรกต่อจากดีล JV ในประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ซึ่งกล่าวได้ว่าจะสามารถสร้างรายได้ทันทีพร้อมด้วยสินค้าและบริการของบริษัทย่อยใหม่ และเป็นไปตามเป้าหมายหลักคือการเติบโตในปีนี้ที่จะเน้นมาจากสินค้ากลุ่ม Brand  Export อย่างไรก็ตามแนะนำให้ติดตามความสำเร็จจาก 1) ลูกค้า CMG Domestic ที่บริษัทฯคาดว่าจะมีการเติบโตมาจากการทยอยกลับมาจ้างผลิตของลูกค้ารายเดิม และลูกค้ารายใหม่จากเครื่องจักรใหม่ และ 2) การเริ่มต้นทำธุรกิจของ JV จากการแลกเปลี่ยนสินค้าเพื่อจัดจำหน่ายในประเทศคู่ค้า ก่อนที่จะติดสินใจ “ทยอยสะสม” เพื่อลงทุนต่อการเติบโตจากฐานที่ต่ำในปี 60 (งวด 9M60 กำไร -37%YoY)

·        PTTGC (ราคาปิด 96.5  Bloomberg Consensus 97.80) ทุ่มงบลงทุน 3.56 หมื่นล้านบาท สร้างโรงโอเลฟินส์แห่งใหม่ ดันกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 25% จาก 2,988,000 ตันต่อปี เป็น 3,738,000 ตันต่อปี คาดเริ่มผลิตได้ในปี 2563 ตามแผนลงทุน 5 ปี ใช้เงินลงทุน 2.5 แสนล้านบาท (ที่มาทันหุ้น)   

·        SYNEX (ราคาปิด 15.20 ราคาเหมาะสม 16.20) ตั้งเป้ารายได้ปี 2561 โต 15-20% จากยอดขายสินค้าเดิม พร้อมผลิตภัณฑ์ใหม่ เร่งเจรจาแบรนด์สินค้าใหม่ คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ แย้มเตรียมโรดโชว์ตปท. ให้ข้อมูลนักลงทุน

·        PSTC ฉายภาพธุรกิจปีจอ เชื่อรายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ พุ่งขึ้น 100% จากการรับรู้รายได้ "บิ๊กแก๊ส" พร้อมเตรียมแต่งตัว BGT เข้า SET คาดเริ่มกระบวนการได้ปลายปี 62 ชี้ธุรกิจเดิมโตต่อเนื่องปีละ 20-25% จ่อชิงงานใหม่ 1 พันล้านเร็วๆ นี้ ด้านพลังงานทดแทนซุ่มเจรจาพันธมิตรท้องถิ่นลุยโซลาร์ 30 MW

·        ECF จะลดถือหุ้นใน"แพลนเนท"ทำธุรกิจผลิตแผ่นเอ็มดีเอฟ-แผ่นปาร์ติเกิ้ล เหลือ 57% หลังขายหุ้น 43% ให้ผู้ซื้อ 6 ราย เพื่อลดภาระการใช้เงินทุนของบริษัท อย่างไรก็ตามปัจจุบันแพลนเนทยังไม่มีการดำเนินงาน และยังไม่เริ่มมีรายได้เชิงพาณิชย์ (ที่มาInfoQuest)