อธิบดีกรมการแพทย์ เข้าช่วยเหลือหนุ่มอ้วน 250 กก.

อธิบดีกรมการแพทย์ เข้าช่วยเหลือหนุ่มอ้วน 250 กก.

อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมคณะ เข้าช่วยเหลือหนุ่มอ้วน 250 กก. เตรียมลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2561 ที่หมู่บ้านบัวสีเงิน บ้านพักเลขที่ 100/118 หมู่ 2 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์ สสจ.พิษณุโลก นพ.ไชยนันท์ ทยาวิวัฒน์ สาธารณสุขนิแทศน์เขต 2 นพ.อารีย์ เจษฎาณาณเมธา รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก นายก อบต.วัดจันทร์ และเจ้าหน้าที่ พมจ.พิษณุโลก ได้เดินทางเยี่ยมดูอาการป่วยของ นายลัทธพล พุกนุ่น หรือน้องอ๊อฟ อายุ 20 ปี ซึ่งมีน้ำหนักตัว 250 ก.ก. ส่งผลทำให้มีปัญหาเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน หากลุกยืนเป็นเวลานานก็จะล้มเนื่องจากข้อเท้าเริ่มเสื่อมรับน้ำหนักตัวไม่ไหว จะลุกเข้าห้องน้ำก็ยากจึงต้องเอากระบอกปัสสาวะไว้ใกล้ตัว ต้องนอนเฉยๆ อยู่กับบ้านเพียงลำพัง

โดยมีมารดา นางสมจิตร พุกนุ่น อายุ 55 ปี เป็นผู้เลี้ยงดูด้วยการตะเวนขายขนมจีนน้ำยา มีรายได้พอเลี้ยงดูครอบครัว ส่งผลทำให้ไม่รายได้เพียงพอกันการรักษาอาการป่วย เนื่องจากทางโรงพยาบาลพุทธชินราชได้ส่งตัวไปรักษาที่ โรงพยาบาลโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าตัดกระเพาะอาหาร แต่เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการเหมารถตู้ไปกลับครั้งละ 4,500 บาท จึงไม่เดินทางไปรักษาอย่างต่อเนื่องจนน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นและเสี่ยงกับอาการกึ่งหัวใจวายได้ขณะนอนหลับ

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากการมาตรวจอาการเบื้องต้นพบว่า น้องอ๊อฟมีน้ำหนักตัวมาก จนเป็นผลทำให้ระบบการหายใจบางครั้งหยุดการหายใจไปชั่วขณะ มีปัญหาหัวใจโต กึ่งหัวใจจะหัวใจวาย ไขมันสูงเล็กน้อย ตับดี ไตดี มีโรคเบาหวานไม่มาก โชคยังดีเนื่องจากมีอายุน้อยทำให้มีโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้ เพื่อเป็นการเตรียมการก่อนช่วยเหลือน้องอ๊อฟที่น้ำหนักตัวมากกว่า 250 ก.ก. นั้น ในการส่งตัวไปผ่าตัดกระเพาะอาหาร ที่ โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยในวันพรุ่งนี้ (24 ม.ค.) ทางแพทย์เจ้าของไข้ ได้นัดตรวจอาการป่วยน้องอ๊อฟ ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ด้วยติดปัญหาเรื่องเตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอ จึงได้ประสานขอไปยัง โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อเตรียมร่างกายน้องอ๊อฟก่อนทำการผ่าตัด คือ จะมีการควบคุมด้านอาหาร ให้วิตามิน น้ำเกลือ เพื่อลดน้ำหนักลงอีกอย่างน้อย 10% หรือประมาณ 225 ก.ก. เพื่อให้สะดวกในการใส่อุปกรณ์ทำการผ่าตัด ซึ่งอาจใช้เวลาในการนอนรักษาที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรอย่างน้อย 1 เดือน

จากนั้นจะประสานขอรถพยาบาลจากโรงพยาบาล หรืออาจใช้รถตู้จากการประสานของ อบต.วัดจันทร์ เพื่อนำตัวน้องอ๊อฟส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี ทำการผ่าตัดกระเพาะอาหารออก 90% เหลือไว้เพียง 10 % จะได้อิ่มเร็วขึ้น และตัดลำไส้ออกเพื่อลดการดูดซึม ซึ่งในผู้ป่วยโรคอ้วนมีหลายรายผ่าตัดแล้ว ประสบความสำเร็จ สามารถเปลี่ยนชีวิตใหม่ และผอมลงจนใช้ชีวิตได้ปกติเช่นคนทั่วไป
อย่างไรก็ตามทางอธิบดีกรมการแพทย์ ได้มอบกระเช้าสุขภาพ ขณะที่ พมจ.พิษณุโลก มอบเงินช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้น เพื่อเป็นกำลังใจให้น้องอ๊อฟในการรักษาโรคอ้วนให้หายขาด และกลับมาใช้ชีวิตเช่นคนปกติทั้งไปอีกด้วย