2 ผู้ต้องอิสเอลสารภาพ ขัดแย้งผู้เสียชีวิตมาก่อน

2 ผู้ต้องอิสเอลสารภาพ ขัดแย้งผู้เสียชีวิตมาก่อน

2 ผู้ต้องหาสัญชาติอิสราเอล สารภาพขัดแย้งผู้เสียชีวิตร่วมชาติมาก่อน วางแผนฆ่าหลังพบที่เกาะสมุย เจอข้อหาหนัก ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่า เจ้าหน้าที่มั่นใจหลักฐานแน่น

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคอมมานโด นำตัว 2 ผู้ต้องหา สัญชาติอิสราเอล เดินทางมายัง สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อทำการสอบสวน ร่วมหลักฐานในการดำเนิน ในคดีร่วมกันฆ่าเพื่อนร่วมชาติเดี่ยวกัน

เวลา 15.30 น.วันนี้ (22 ม.ค.61) พล.ต.องเฉลิมเกียรติ ศรีวรขนา รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ตร.ทท. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยคอมมานโด ควบคุมตัว นายเอยาล โบคาล และ นาย โดเลฟ ชัวเรช 2 ผู้ต้องหาสัญชาติอิสราเอล ข้อหาร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่า นายมาออ มาลิล และพยายามฆ่า น.ส.ราเชล โอซาน่า สัญชาติอิสราเอล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่าน เดินทางมายัง สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อทำการสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องทั้ง 2 คน ไปแล้วก่อนหน้านี้ ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีสีหน้าที่เคร่งเครียด

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขนา เปิดเผยว่า ซึ่งผู้ต้องหาจะยอมรับว่า มีความขัดแย้งกับผู้ตาย กันมาก่อนที่ประเทศอิสราเอล ก่อนหน้า และได้เดินทางมาเจอผู้ตาย ที่ อ.เกาะสมุย จึงได้ร่วมกันวางแผนลงมือฆ่า โดยทางผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้มีการขับรถติดตามผู้เสียชีวิต มาแล้วก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะสบโอกาสแล้วได้ลงมือก่อเหตุ หลังก็เหตุก็ได้หลบหนีออกจากเกาะสมุย ก่อนที่จะจับกุมตัวได้
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จากประเทศอิสราเอล ที่ระบุว่า ถึงความขัดแย้งของผู้ต้องหาและผู้ตาย ขณะที่อยู่ในประเทศอิสราเอล ซึ่งหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบร่วมหลักฐานได้อย่างแน่นหนา ไม่ว่าจะเป็นอาวุธมีด ที่ใช้ก่อเหตุ และรถเก๋ง ซีอาร์วี พร้อมกับเก็บตัวอย่าง ดีเอ็นเอ เพื่อประกอบในการดำเนินคดี ทางเจ้าหน้าที่มีความเชื่อมั่นในพยานหลักว่าแน่นหนา เพียงพอ ถึงแม่ว่าไม่ได้ตัวนำผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ จะได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม ว่าในการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ มีใคร หรือชาวอิสราเอล ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย มีส่วนเกี่ยวข้องบ้างหรือไม่ หากมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอน ส่วนกลุ่มชาวต่างชาติ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เป็นกลุ่มอิทธิพล หรือเป็นกลุ่มมาเฟีย แต่อย่างใด ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว และผู้ที่มาประกอบกิจการ ซึ่งในเรืองนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเอง ก็ให้ความสำคัญ ได้ทำการตรวจสอบการเดินทางเข้ามาของกลุ่มชาวต่างชาติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเดินทางมาท่องเที่ยว หรือมาประกอบธุรกิจ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการท่องเที่ยว แต่หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ต้องเร่งจับดำเนินคดีให้ได้