วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (22 ม.ค.61)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (22 ม.ค.61)

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังโอเปคคาดอุปทานน้ำมันดิบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปีนี้

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง เนื่องจากมีแรงเทขายน้ำมันดิบจากนักลงทุน ซึ่งมีความกังวลต่อปริมาณกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มมากขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานกำลังการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 300,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 9.75 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา

+ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐ สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 5 แท่น มาสู่ระดับ 747 แท่น ถึงแม้ว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันจะปรับตัวลดลง แต่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบยังสูงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ระดับ 551 แท่น

+ สำนักงานพลังงานสากลรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของโลกเริ่มที่จะตึงตัว เนื่องจากที่กลุ่มสมาชิกโอเปคจำกัดกำลังการผลิตเพื่อที่จะรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันดิบ รวมถึงอัตราความต้องการใช้น้ำมันดิบของโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น และกำลังการผลิตน้ำมันดิบของเวเนซุเอล่าได้ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี อย่างไรก็ตามการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ แคนาดาและบราซิล อาจจะสามารถทดแทนกำลังการผลิตของเวเนซุเอล่าที่หายไปได้

ราคาน้ำมันเบนซิน  ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิงคโปร์ปรับลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.62 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ระดับ 240.94 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในยุโรปปรับตัวลดลงเป็นเวลา 11 สัปดาห์ติดต่อกัน

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

  • ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 61 - 66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 66 - 71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • จับตาการประชุมระหว่างกลุ่มผู้ผลิตทั้งในและนอกโอเปคในวันที่ 21 ม.ค. นี้ หลังกลุ่มผู้ผลิตอาจหารือและพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการการปรับลดกำลังการผลิตที่มีกำหนดสิ้นสุดลงในปลายปีนี้ โดยหนึ่งในบริษัทพลังงานของรัสเซียเสนอให้มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นหากราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ผลิตเห็นพ้องกันในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปี แต่จะมีการทบทวนข้อตกลงดังกล่าวอย่างเป็นทางการในการประชุมโอเปคครั้งต่อไปในเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อประเมินผลกระทบของข้อตกลงดังกล่าวต่อราคาน้ำมันดิบ
  • จับตาการส่งสัญญาณในการโจมตีการขุดเจาะน้ามันดิบครั้งใหม่ในประเทศไนจีเรีย หลังกลุ่มติดอาวุธในไนจีเรียพร้อมที่จะโจมตีการขุดเจาะน้ำมันดิบนอกชายฝั่งทะเล หลังที่ก่อนหน้านี้ได้โจมตีท่อขนส่งน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่องในไนจีเรียในช่วงปี 2558 ที่ผ่านมา
  • ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับจุดคุ้มทุนเฉลี่ยในการลงทุนผลิตน้ำมันของผู้ผลิตน้ำมันดิบจากหินชั้นดินดาน (Shale oil) ในสหรัฐ โดยแนวโน้มการปรับเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ สะท้อนได้จากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐ ที่อาจปรับเพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า

------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)          

โทร.02-797-2999