MORNING CALL ACTION NOTES (22 ม.ค.61)

MORNING CALL ACTION NOTES (22 ม.ค.61)

กังวล Shut down สหรัฐ

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อนผันผวนทั้งแดนลบและแดนบวก ภายใต้ทั้งปัจจัยบวกและลบจากต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนในกลุ่ม ICT PROP และ ENERGขายกลุ่ม BANK ENERG ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,821.34 จุด (+2.02 จุด) Volume 7.80 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +1,973.81 ลบ.  TFEX Net -331 สัญญา ตราสารหนี้ +1,760.10 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดดีดตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากมุมมองบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและผลประกอบการของบริษัทต่างๆ

-น้ำมันปิดลดลงเนื่องจาก  IEA ระบุว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐจะพุ่งสูงขึ้นในปีนี้ นอกจากนี้ยังคาดว่าสหรัฐโค่นรัสเซีย,ซาอุดิอาระเบีย ครองแชมป์ประเทศผลิตน้ำมันมากสุดในโลกปีนี้

-รัฐบาลสหรัฐเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ หลังวุฒิสภาไม่ผ่านร่างกม.งบประมาณชั่วคราว

-สร.กทพ. เบรกจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ อ้างอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล ปกครองกลางให้ยุติการจัดตั้ง

+/-Fund Flow ต่างชาติพลิกกลับมาซื้อ 3 วันรวม 4.3 พันลบ. ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าสู่ 31.89  Bath/USD

**จับตาชัตดาวน์สหรัฐจะสิ้นสุดเมื่อไร านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

**สนค. จะแถลงตัวเลขส่งออกเดือนธ.ค. 60

ภาวะตลาดหุ้นไทยในวันนี้มีปัจจัยกดดันจากการที่สหรัฐเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ ราคาน้ำมันที่ปรับลง และ fund flow ผันผวน โดยมีปัจจัยหนุนจากตัวเศรษฐกิจในประเทศที่ยังมีแนวโน้มดี ดังนั้นคาด SET จะอ่อนตัวลงในรกอบ 1,809-1,831 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- TVO (ต้นทุน 90% เป็น US รับผลบวกบาทแข็ง / ราคากากถั่วหลือง 5 วัน รวม +5.75% )

- PTTEP PTTGC ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง 63.37 $/bbl

- CENTELL ERW MINT นักท่องเที่ยว ธ.ค.ทำสถิติสูงสุดใหม่

- AMATA WHA ร่างพรบ.อีอีซีจะเข้าสู่ที่ประชุมสนช.ราวเดือนก.พ.

- หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TWPC JUBILE AMA D

 

หุ้นแนะนำพิเศษ

BDMS (ราคาปัจจุบัน 21.2 บาท Bloomberg Consensus 23.5 บาท)

  • แนวโน้มกำไรปกติในงวด 4Q60 น่าจะออกมาเติบโตต่อเนื่อง YoY หลังจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีการฟื้นตัวอย่างมาก (ต.ค. 60 +20.92%YoY, พ.ย. 60 +23.18%YoY และ ธ.ค. 60 +15.51%YoY) หนุนการเติบโตของรายได้ผู้ป่าวชาวต่างชาติ (สัดส่วน 30%) และเป็นผลให้โรงพยาบาลที่ BDMS ได้เข้า Take Over ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (ปัจจุบัน มี 45 แห่ง) มีผลประกอบการที่เข้าใกล้จุดคุ้มทุนมากขึ้น ซึ่งได้เริ่มสะท้อนไปแล้วตั้งแต่งวด 3Q60 กล่าวคือ อัตรากำไรขึ้น QoQ มาเป็นลำดับ (2Q60 29.1%, 3Q60 32.3%)
  • แนวโน้มกำไรปกติของ BDMS ในปี 61 น่าจะมีการเติบโตจากสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศที่ได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้งการปลดธงแดง ICAO มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ สถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และการขยายเส้นทางบินของกลุ่ม Low cost Airline โดย Bloomberg Consensus คาดจะเติบโต 12.7%YoY นอกจากนี้ BDMS ยังมีการลงทุนครั้งใหญ่ “BDMS Wellness Clinic” ภายใต้ Concept ของการแพทย์ในเชิงป้องกันโรคด้วยแผนกตรวจสุขภาพที่มีเครื่องมือครบที่สุดในโลก ที่น่าติดตามการประมาณการมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทในระยะยาวหลังมีความชัดเจนมากขึ้นจากการเปิดทำการช่วง 1Q61 – 2Q61

ส่องหุ้น

  • HUMAN แนวรับ 9.80-9.70 บาท  แนวต้าน 10.20 , 11.00 บาท
  • ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาต่อเนื่อง 2 วันและปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันได้ ซึ่งปิดได้ในระดับสูงของวัน ในขณะที่วอลุ่มซื้อขายทรงตัวแต่ MACD เริ่มดีดกลับใกล้ตัดเส้น SIGNAL แล้ว หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 9.80-9.70 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์แถวๆ 10.20 บาท ก่อนผ่านขึ้นทำ New high ไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 11.00 บาทต่อไป
  • DTAC แนวรับ 51.25-50.75 บาท แนวต้าน 52.00-52.25 , 54.25 บาท
  • ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 3 สัปดาห์ได้อีกครั้งแต่ปิดเหนือไม่ได้ ยังดีที่สามารถปิดได้ในระดับสูงของวัน โดยมีวอลุ่มซื้อขายสูงขึ้นมาก และ RSI ที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 50.75 บาทซะก่อน มีโอกาสที่ระดับราคาจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านเดิมที่ 52.00-52.25 บาท ก่อนผ่านขึ้นทำ New high ไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 54.25 บาทอีกครั้ง
  • SKN แนวรับ 7.40-7.35 บาท           แนวต้าน 7.65 , 7.85 บาท
  • ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high ได้ในรอบเกือบ 2 เดือน โดยขยับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวันและออกไปเล่นนอกกรอบ BollingerTop เล็กน้อย ในขณะที่วอลุ่มเพิ่มสูงขึ้น หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาในกรอบ BollingerTop ที่ 7.40-7.35 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 7.65 บาท โดยมีแนวต้านถัดไปแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 75 วันที่ 7.85 บาทด้วย

 

หุ้นมีข่าว   

Analyst Meeting : KBANK (ราคาปิด 227 Bloomberg Consensus 238.44)

Ø  กำไรสุทธิปี 60 เท่ากับ 34,338 ล้านบาทลดลง 15% ต่ำกว่าคาดการณ์ Consensus 9% เนื่องจากมีการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นมากกว่าแผนเพื่อรองรับมาตรฐานบัญชี IFRS9 ที่จะเริ่มมีผลในปี 62  กล่าวคือ เป้า credit cost ปี 60 อยู่ที่ 200-225 bps แต่เกิดขึ้นจริง 239 bps ผู้บริหารตั้งเป้า credit cost ปี 61 ลดลงเหลือไม่เกิน 185 bps 

Ø  รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลงเนื่องจากธุรกิจประกันมีการแข่งขันสูงจึงมีการเสนอผลตอบแทนสูงทำให้เบี้ยประกันภัยรับสุทธิลดลง ส่งผลให้รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยในปี 60 หดตัว 1.62% ไม่เป็นไปตามเป้าเติบโต 5%  ผู้บริหารคาดรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยในปี 61 จะทรงตัวใกล้เคียงกับปี 60

Ø  ฝ่ายวิจัยประเมินว่าปัจจัยหนุนการเติบโตของผลการดำเนินงานปีนี้จะมาจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวช่วยหนุนความต้องการสินเชื่อของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น  ขณะที่คชจ.สำรองหนี้สูญน่าจะทรงตัวหรือต่ำกว่าปี 60

·        KKP (ราคาปิด 81.75 Bloomberg Consensus เฉลี่ย 88.88) มีกำไรปี 60 เท่ากับ 5,737 ลบ. +3.4% ต่ำกว่าคาดการณ์ Consensus 2% กำไรเบ็ดเสร็จซึ่งรวมมูลค่าหลักทรัพย์เผื่อขายจากธุรกิจตลาดทุนเท่ากับ 6,114 ลบ. +6% การเติบโตของกำไรมีสาเหตุหลักมาจากคชจ.สำรองหนี้สูญที่ลดลงถึง 67% จากปี 59 ที่เป็นผลมาจาก NPL โดยรวมปรับลดลงส่งผลให้ %NPL ลดเหลือ 5% จาก 5.6% ณ ปลายปี 59   ด้านสินเชื่อรวมพลิกมาขยายตัว 9.3% จากปลายปี 59 จากที่หดตัวมาตลอด 3 ปีก่อนหน้าโดยมีการขยายตัวในทุกประเภทสินเชื่อยกเว้นสินเชื่อเช่าซื้อ ขณะที่สินเชื่อบรรษัทเติบโตสูงมากถึง 130%

·        ประเด็นบวก KKP : บล.ภัทรรับเละค่าฟี 800-1,000 ล้านจากกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ มูลค่า 4.4 หมื่นล้าน เตรียมบินไปโรดโชว์ช่วงเดือน ก.พ.นี้แถบยุโรปและเอเชียก่อนขายเดือน มี.ค. (ที่มา ข่าวหุ้น)

·        ความเห็น เป็นประโยชน์กับ KKP  ที่ควบรวมกิจการกับบล.ภัทรตั้งแต่ปี 56 ช่วยหนุนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโตดีในช่วง 1Q61 กรณีมีข่าวเบรกการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว  คาดกระบวนการพิจารณาจะทำให้การเปิดขายกองทุนล่าช้าออกไป

·        TCAP (ราคาปิด 58 Bloomberg Consensus เฉลี่ย 56.08) รายงานกำไรสุทธิปี 60 เท่ากับ 7,001 ลบ. +16% โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 2.5% รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 10% คชจ.สำรองหนี้สูญทรงตัว และมี credit cost ลดลง สินเชื่อเติบโต 3% จากปีก่อนจากกการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้นตามภาวะตลาดรถยนต์ที่ปรับดีขึ้น ด้านคุณภาพสินทรัพย์มีการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้าธุรกกิจรายใหญ่ส่งผลให้ %NPL เพิ่มขึ้นจาก 2.21% ณ ปลาย Q3 เป็น 2.4% ณ ปลายปี 60 ใกล้เคียงกับปลายปี 59

·        KTB (ราคาปิด 20.40  Bloomberg Consensus 20.60) คาดจะส่งงบปี 60 วันนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 60 ราว 2.56 หมื่นลบ. ลดลง 20% จากผลกระทบเรื่องคชจ.สำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน

·         (+) RSP (ราคาปิด 5.95 ราคาเหมาะสม 8.70) ตั้งเป้ารายได้ปี 2561 เติบโตราว 15% มองตลาดค้าปลีกยังสดใส เริ่มเห็นสัญญาณโตแรง ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2560 ขณะที่ตั้งงบลงทุน 30 ล้านบาท ลุยขยายสาขา Converse และ Pony ในประเทศเตรียมเปิดสาขาใหม่ในกัมพูชา 2 แห่งในปีนี้ ที่มาทันหุ้น

·        (+)PSTC (ราคาปิด 0.86 ราคาเหมาะสมยังไม่รวมการ Diluted PP 0.90)  ผู้บริหารยืนยันไม่ล้มดีลซื้อ "บริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด" พร้อมย้ำไม่มีแผนเพิ่มทุน และโครงสร้างภายในเปลี่ยน ใส่เกียร์ลุยงานตามแผน คาดรายได้ปี 2561 โต 100% เตรียมเปิดกรุรับทรัพย์ธุรกิจใหม่ ส่วนธุรกิจพลังงานจ่อ COD โรงไฟฟ้าครบ 37.6 MW ที่มาทันหุ้น

·        (+)PTT (ราคาปิด 478 Bloomberg Consensus 484) เตรียมรายงานคืบหน้านำ PTTOR เข้าตลาดหุ้นในที่ประชุมผถห.ในเม.ย.นี้, เล็งเปลี่ยนโลโก้ใหม่ โดยการโอนทรัพย์สินทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในปลายปี 61 เพื่อให้สามารถกระจายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯได้ในปี 62 (ที่มาInfoQuest)   

·        IVL (ราคาปิด 57.75 Bloomberg Consensus 63.76) เผย"Canopus"ผถห.ใหญ่ออกหุ้นกู้แปลงสภาพ วงเงิน 200 ล้านดอลล์ เสนอขายสถาบันตปท.-hedge funds (ที่มาInfoQuest)