พระถูกรถชนดับ ขณะข้ามถนนไปบิณฑบาตร เจ้าอาวาสวอนสร้างสะพานลอย

อ่างทอง-เมื่อเวลา 05.30 น. ของวันนี้ (22 ม.ค. 60) ร.ต.อ.สิริชัย สีนิล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุรถชนพระเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย (ขาเข้ากรุงเทพฯ) หมู่ที่ 5 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสาทพร ศรีสุขโข ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง พ.ต.ท.เฉลิม ยิ้มช้อย สารวัตรปราบปราม สภ.เมืองอ่างทอง แพทย์เวรโรงพยาบาลอ่างทอง และเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบนถนนพบศพระเดช กิจวิบูลย์ อายุ 75 ปี พระลูกวัดของวัดมธุรสติยาราม ใน ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง นอนมรณภาพอยู่ในสภาพร่างกายแหลกเหลว บิดงอ ใกล้กันพบย่ามและบาตรพระ กระเด็นอยู่ในที่เกิดเหตุ ห่างไปประมาณ 50 เมตร พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีเทา หมายเลขทะเบียน ฒว-1779 กรุงเทพฯ จอดอยู่ริมถนนในสภาพด้านหน้าแถบซ้ายมีร่องรอยการชนจนชิ้นส่วนแตกเสียหาย

จากการสอบถามนายวัชรา แก้วมณี อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/8 หมู่ 1 ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.จ.นนทบุรี คนขับรถกระบะ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถออกจากจังหวัดตาก มุ่งหน้าจะกลับบ้านที่จังหวัดนนทบุรี โดยขับมาในเลนขวา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุจู่ ๆ ก็เหตุพระรูปดังกล่าวได้วิ่งข้ามถนนมายังเลนของตน ซึ่งตนขับรถมาด้วยความเร็วประมาณ 100 กม./ชั่วโมง เบรกไม่ทันพุ่งชนเข้าอย่างแรง จนทำให้เกิดเหตุดังกล่าว

นายวัชรา กล่าวต่อว่า ปกติตนจะใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ และจะคอยระมัดระวังอยู่เสมอเนื่องจากบริเวณนี้จะมีคนวิ่งข้ามเป็นประจำ แต่วันนี้พระข้ามมาในระยะกระชั้นชิด ตนเบรกไม่ทันจริง ๆ

ด้านพระครูพิศาล คุณาภินันท์ เจ้าอาวาสวัดมธุรสติยาราม กล่าวว่า พระเดชนั้น เป็นพระลูกวัดของตน ในทุก ๆ เช้าจะเดินออกจากวัดเพื่อมารับบิณฑบาตรจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเมื่อก่อนก็จะใช้สะพานลอยคนข้ามถนน แต่เมื่อปีก่อนได้เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกที่บรรทุกรถแบคโฮมาได้ชนสะพานเสียหาย อาตมา พระในวัด และชาวบ้านในละแวกต่างได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากต้องคอยข้ามถนนสายเอเชียซึ่งรถวิ่งผ่านตลอดทั้งวันทั้งคืนในปริมาณมาก เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งอาตมาเคยวิงวอนและขอให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งซ่อมให้เสร็จ เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย และสุดท้ายในวันนี้ก็เกิดเหตุจนได้จริง ๆ อาตมาไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้อีก เลยคิดว่าอาจจะชักชวนกันไปคุยกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เพื่อให้เร่งแก้ไขโดยด่วน

ส่วน นส.จิราพร พันธุวงษ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/6 หมู่ 5 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุระหว่างที่ตนเตรียมกับข้าวจะรอใส่บาตรพระตามปกติทุกวัน ระหว่างที่ตนยืนรอพระอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเหมือนรถทับอะไรแตกก็หันไปมอง ซึ่งตอนนั้นชาวบ้าน สาว ๆ โรงงานต่างร้องโวกเวกโวยวายกัน ตนจึงวิ่งมาดูก็พบว่าพระถูกรถชนเสียชีวิตแล้ว

นส.จิรพร กล่าวต่อว่า ปกติบริเวณนี้จะมีสะพานลอยคนข้าม ซึ่งเมื่อก่อนประชาชนในละแวกไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียน หนุ่มสาวโรงงาน หรือพระที่ออกบิณฑบาตรจะใช้สะพานลอยคนข้าม แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุเมื่อต้นปีก่อน ทำให้ทุกคนต้องจำใจวิ่งข้ามถนน ซึ่งถือว่าเสี่ยงมากเนื่องจากรถเยอะ ยิ่งพระที่ออกบิณฑบาตรหลายรูปเป็นพระชรา ทำให้ชาวบ้านต่างหวั่นใจว่าจะเกิดเหตุร้าย จนกระทั่งวันนี้มาเกิดเหตุร้ายกับพระเดชซึ่งอายุมากถึง 75 ปี เข้าจนได้ ตนอยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยากให้เร่งรัดในการซ่อมแซมทำสะพานลอยคนข้ามให้เสร็จโดยเร็ว เพราะมันเนิ่นนานมามากแล้ว ก็เข้าใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้มาใช้สะพานกับชาวบ้านด้วยก็จริง แต่ชาวบ้านและพระนั้นเดือดร้อนมาก ถึงแม้ว่าศพนี้จะเป็นศพแรก แต่ก็อยากให้เป็นศพสุดท้าย ก็ฝากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
ร.ต.อ. สิริชัย กล่าวว่า สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น รถกระบะคันดังกล่าวหลังเกิดเหตุก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน จอดรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งอย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนศพพระเดชญาติไม่ติดใจถึงสาเหตุการมรณภาพ ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพส่งบำเพ็ญกุศลยังวัดมธุรสต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับสะพานลอยคนข้ามถนนดังกล่าวนั้น ได้เกิดเหตุรถเทรลเลอร์บรรทุกรถแบคโฮชนสะพานลอยพังมาหล่นทับรถยนต์ 2 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุมาจนถึงปัจจุบันสะพานลอยดังกล่าวยังสร้างไม่เสร็จ ถึงแม้ว่าจะมีชาวบ้าน หรือพระที่ออกบิณฑบาตในละแวกวิงวอนและร้องขอให้เร่งซ่อมแซม ณ ปัจจุบันสะพานลอยก็ยังซ่อมแซมไม่เสร็จ