รู้ทัน! แฉแผนสืบทอดอำนาจ ขยายเวลาเลือกตั้งส.ส. รองรับพรรคทหาร

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มีมติเสียงข้างมากให้แก้ไขมาตรา 2 กำหนดให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ 90 วันหลังประกาศใช้ ว่าการยืดเวลาการบังคับใช้กฎหมายออกไปก็คงทำให้กรอบระยะเวลาการเลือกตั้งตามโรดแม็ปตามที่นายกฯเคยกล่าวไว้จะมีการเลือกตั้งเดือน พ.ย. 61 เลื่อนออกไปโดยปริยาย

"ในฐานะที่เป็นนักการเมืองก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร ไม่ได้รู้สึกจะเป็นจะตาย ถ้าการเลือกตั้งเลื่อนออกไปจากเดิม 90 วัน เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมาย เนื่องจากผู้มีอำนาจยังเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ไม่เสร็จเรียบร้อยใช่หรือไม่ พูดง่ายๆว่ายังแต่งตัวไม่เสร็จเลยต้องหาช่องทางทอดระยะเวลาการบังใช้กฎหมายออกไปใช่หรือไม่"

ทั้งนี้ การดำเนินการขยายเวลาครั้งนี้ น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสืบทอดอำนาจที่ดำเนินการมาเป็นขั้นตอน โดยเฉพาะเมื่อมีความชัดเจนว่า (1.) ต้องจัดตั้งพรรคใหม่ และดูดนักการเมืองจากพรรคเก่า (2.)การเคลื่อนไหวเพื่อบอนไซพรรคเก่า สร้างพรรคใหม่จึงดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการไม่ยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรม ถึงแม้จะมีกฎหมายพรรคการเมืองออกมาใช้หลายเดือนแล้ว (3.)จากนั้นก็ใช้มาตรา 44 รีเซ็ตสมาชิกพรรคการเมืองเก่าออกเงื่อนไขที่ปฏิบัติได้ยากและขัดรัฐธรรมนูญ (4.) จนในที่สุดก็มาถึงการขยายเวลาการเลือกตั้งส.ส.ยืดออกไปอีก 90 วัน

“จากการเคลื่อนไหวของผู้มีอำนาจเช่นนี้ ทำให้น่าเป็นห่วงว่าเมื่อผู้มีอำนาจที่เคยแสดงตัวว่าเป็นกรรมการแล้วเปลี่ยนสถานะมาเป็นผู้เล่นในสนามเสียเอง แถมยังใช้อำนาจเปลี่ยนแปลงกฎ กติกา ไปตามอำเภอใจ ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าการเข้าสูอำนาจโดยการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ จึงขอฝากผู้มีอำนาจช่วยไตร่ตรองให้ดีว่าการสืบทอดอำนาจโดยใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมอาจนำพาประเทศไปสู่ปัญหาใหม่ได้ในที่สุด”