รวบแล้ว 'อดีตทหารรบพิเศษ' อุ้มรีดเงินนักธุรกิจอินเดีย

รวบแล้ว 'อดีตทหารรบพิเศษ' อุ้มรีดเงินนักธุรกิจอินเดีย

ตำรวจชุดสืบสวนนครบาล บุกรวบ “อดีตทหารรบพิเศษ” อุ้มรีดเงินนักธุรกิจชาวอินเดีย ตรวจสอบประวัติพบก่อเหตุลักษณะเดียวกัน 14 ครั้ง ในพื้นที่แถบปริมณฑล

จากกรณีนายรามา ยาดอร์ อายุ 47 ปี สัญชาติอินเดีย ถูกคนร้ายแต่งกายคล้ายชุดทหารใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ให้พาไปกดเงินโอนออกไปประมาณ 3 แสนบาท บริเวณซอยรามอินทรา 109 ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา แล้วมีการนำเสนอว่าเป็นสารวัตรทหารรักษาการดูแลบ้านรองนายกรัฐมนตรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 19 ม.ค.61 รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันนำกำลังตำรวจ บก.สส. ตำรวจ กก.สส.บก.น.3 และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ร่วมกันจับกุมตัวนายพีระพัฒน์ บุญคง อายุ 31 ปี ผู้ต้องหา อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่1 ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางเครื่องแบบทหาร(ชุดลายพราง) เสื้อเกราะอ่อนกันกระสุน และรถจยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีดำที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมได้ที่ห้องพักใกล้ รพ.ศิริราช ย่านบางกอกน้อย กทม. เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหา เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุรีดทรัพย์นายรามา ตามที่ปรากฏเป็นข่าวจริง นอกจากนี้ยังอ้างว่า เคยรับราชการเป็นทหารยศสิบเอก หน่วยรบพิเศษ จ.ลพบุรี แต่ถูกให้ออกจากราชการไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง

ซึ่งเมื่อทำการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุคดีรีดทรัพย์ 14 คดี ตั้งแต่ปี 2557 ในพื้นที่ บชน. ภาค1 ภาค 7 อาทิ จังหวัดสมุทรปราการ จ.สมุทรสาคร จ.นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร โดยมักจะใช้วิธีสวมชุดทหารอ้างตัวว่ามาจับกุมแรงงานต่างด้าวที่ปล่อยเงินกู้ และผู้ที่เปิดโต๊ะพนันบอล-โต๊ะสนุ๊ก อีกทั้งเคยก่อเหตุเข้าไปข่มขู่โต๊ะพนันบอลที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยใช้กลอุบายคำพูดว่า “นี่ทหาร หยุด หมอบลงให้หมด” จนทำให้คนในโต๊ะบอลที่มีจำนวน 30 คน ยังต้องหมอบลงหมด เนื่องจากหวาดกลัว

ทั้งนี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้มีผู้เสียหายที่มาลงประจำวันที่ที่ สน.มีนบุรี ไว้จำนวน 4 คดี ซึ่งน่าเชื่อว่าจะมีอีกหลายคดีแต่ไม่กล้ามาแจ้งความ อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างควบคุมตัวสอบสวนที่ บก.น.3 เบื้องต้นแจ้งข้อหา“ชิงทรัพย์โดยแต่งเครื่องแบบทหาร หรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหาร โดยใช้ยานพาหนะเพืรอการกระทำความผิด,มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร,ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”ก่อนจะมอบให้ ผู้บังคับบัญชาแถลงผลการจับกุมต่อไป