รวบหนุ่มยูเออี คดีข่มขืนสาวมะกัน อ้างสมยอม

รวบหนุ่มยูเออี คดีข่มขืนสาวมะกัน อ้างสมยอม

ตำรวจท่องเที่ยวรวบหนุ่มยูเออี คดีข่มขืนสาวมะกัน อ้างสมยอม เหตุเที่ยวผับพลัดหลงเพื่อน ถูกพาให้ขึ้นห้องโรงแรมย่านสุขุมวิท ซอย 2

สน.ลุมพินี - เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ม.ค.2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1 บช.ทท. , พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1บช.ทท. , พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผกก.สน.ลุมพินี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนาย อัลวาดรี ฟาฮัด อับดุลลา โมฮัมหมัด ชารีฟ อายุ 40 ปี สัญชาติสหราชอาณาจักรอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี โดยสามารถจับกุมได้ที่โรงแรม LOHAS RESIDENCES ถนนสุขุมวิท ซอย 2 แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตามนโยบายของรัฐบาลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กวดขันจับกุมกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศโดยแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเพื่อเข้ามาก่ออาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมที่กระทบกับความมั่นคง และอาชญากรรมที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยกรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ม.ค. เวลาประมาณ 03.00 น. ที่ผ่านมา ทางกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้รับแจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวสหรัฐอเมริกา อายุ 28 ปี ถูกคนร้ายข่มขืนมาแจ้งความเอาไว้ที่ สน.ลุมพินี หลังเกิดเหตุได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ และ บช.ทท. สืบสวนขยายผลทันที

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ทางผู้เสียหายให้การว่า ได้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย แล้วมาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 24 จากนั้นได้ชักชวนเพื่อนหญิงอีก 3 คนไปเที่ยวสถานบันเทิง ย่าน สุขุมวิท ซอย 11 ซึ่งเมื่อสถานบันเทิงปิดได้พลัดหลงกับกลุ่มเพื่อน ในขณะที่เดินออกมาตามถนนสุขุมวิท ได้พบชายลักษณะคล้ายชาวตะวันออกกลาง ได้เข้ามาทักทาย พูดคุยทำความรู้จัก พร้อมออกอุบายชักชวนผู้เสียหาย ซึ่งมีอาการเมาเล็กน้อย มายังห้องพัก ในโรงแรม ย่านสุขุมวิทซอย 2 ก่อนพาขึ้นห้องและถูกข่มขืนกระทำชำเรา จากนั้นได้ออกจากโรงแรมและไปแจ้งความทันที

รองผบช.ทท. กล่าวด้วยว่า จากนั้นทางตำรวจ บก.ทท.1บช.ทท. ร่วมกับตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รุดเข้าตรวจสอบข้อมูล ที่เกิดเหตุ กระทั่งสืบสวนจนทราบข้อมูลว่า ชายคนดังกล่าวชื่อ นายอัลวาดรี เป็นชาวสหราชอาณาจักรอาหรับเอมีเรตส์ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 60 มีกำหนด 30 วัน ต่อมาทางชุดจับกุมได้ไปตรวจสอบที่พักของนายอัลวาดรี ในขณะนั้นพบตัวนายอัลวาดรีที่โรงแรม Lohos ห้อง2501 ซึ่งเป็นห้องเกิดเหตุ ตร.จึงเชิญตัวไปยังสน.ลุมพินี เพื่อสอบปากคำทันที

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ผู้เสียหายสมยอมไปด้วยกันเอง โดนผู้ต้องหาเดินทางเข้าประเทศไทยหลายครั้งมากเพราะชอบประเทศไทยมาก ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานดีเอ็นเอ.ทั้งหมด เพื่อตรวจสอบก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป