ชุดเฉพาะกิจพญาเสือ บุกจับไม้ประดู่แปรรูป "ดาบ ส.-ดาบ ว." ตำรวจสภ.ด่านช้าง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ม.ค. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าทีมพญาเสือ ร่วมกับนายกิจชัย กุลสัมฤทธิ์ นายอำเภอด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี นายจรูญรัตน์ หิรัญชุฬหะ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.กรกฎ โปชยวณิช ผกก.สภ.ด่านช้าง เข้าตรวจสอบที่โกดังเลขที่ 8 หมู่ 10 บ้านดงปอ ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง เนื่องจากสืบทราบว่ามีไม้ประดูแปรรูปจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ และเชื่อว่าเป็นไม้ที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจสอบพบไม้ประดูแปรรูปจำนวน 19 แผ่น/เลี่ยม
นายกิจชัย กุลสัมฤทธิ์ นายอำเภอด่านช้าง กล่าวว่า ทางชุดพญาเสือได้สืบสวนดำเนินการติดตามข้อมูลการขนถ่ายไม้ดังกล่าว มาระยะเวลาหนึ่ง และมีการติดตามอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ตามจุดต่างๆ ที่มีการขนถ่าย จนมีความชัดเจนว่าไม้ดังกล่าวได้ถูกนำมาเก็บไว้ที่สถานที่ดังกล่าว จึงได้ประสานมาที่อำเภอ จะเข้าดำเนินการตรวจสอบไม้ที่ลักลอบขนถ่าย ขั้นตอนต่อไปจะตรวจสอบที่มาของไม้ดังกล่าว คาดว่าอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของป่าไม้ โดยจะให้ทางป่าไม้ผู้ดำเนินคดีต่อไป
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าทีมพญาเสือ กล่าวว่า ได้ติดตามเครือข่ายของการลักลอบทำไม้อยู่เขต จ.อุทัยธานี และในผืนป่าทั้งป่าสงวนฯ และเขตอุทยานฯ สืบเสาะมาว่าเป็นกลุ่มข้าราชการคนมีสีอยู่ในพื้นที่ อ.ด่านช้าง และติดตามาเป็นระยะเวลากว่า 3 เดือน จนทราบว่ามีการลักลอบทำไม้ประดูในพื้นที่ดังกล่าว จนสืบเสาะรู้แน่ชัดว่ามีการนำไม้มารวมไว้ที่โกดังดังกล่าว ซึ่งเป็นของตำรวจยศนายดาบตำรวจ 2 นาย ของ สภ.ด่านช้าง สถานที่พบเป็นโกดังของ ดาบ ส. แต่ผู้บงการในการเคลื่อนย้ายไม้และเป็นการทำไม้ ทราบว่าชื่อ ดาบ ว. ฉะนั้นข้อมูลในวันนี้เราได้ชัดเจนแล้วว่าเจ้าของไม้คือดาบ ว.ซึ่งคนที่เฝ้าก็ยืนยันว่าเป็นของดาบ ว. ส่วนรถในการเคลื่อนย้ายเป็นของดาบ ส. สำหรับขบวนการสืบเสาะในการค้นหา เราพยายามที่จะให้ความชัดเจนกับส่วนราชการและให้ความเป็นธรรมต่อผู้ที่ถูกเรากล่าวหา ฉะนั้นไม้ที่ได้มาอาจจะมีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน หรืออาจจะได้มาโดยชอบหรือมิชอบ ต้องพิสูจน์กันในขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตามในการตรวจสอบครั้งนี้เราเชื่อว่า เราทำไปตามขั้นตอนทุกอย่าง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมดำเนินการ จึงเชื่อว่าในการบริสุทธิ์ใจในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ ไม่มีการกลั่นแกล้งผู้ใดทั้งสิ้น ทำไปตามพยานหลักฐานทั้งหมด ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิ์ที่จะนำเอกสารมาชี้แจง
ด้านจรูญรัตน์ หิรัญชูฬหะ ผอ.สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สุพรรณบุรี กล่าวถึงฐานความผิดว่า ถ้ามีเอกสารสิทธิ์สามารถดำเนินการได้ ในส่วนของการแปรรูปไม้ต้องขออนุญาตการแปรรูป เพราะฉะนั้นถ้ามีแท่นเถื่อน มีเลื้อยเถื่อนถือว่าผิดกฎหมาย ถ้ามีเอกสารสิทธิ์หรือไม้ที่ถูกต้องก็ถือว่าตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยถูกกฎหมาย แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์อะไรเลยถือว่าผิดกฎหมาย โดยมีไม้แปรรูปเกิน 0.2 ลบม. ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามลำดับที่ 37-38 เพราะฉะนั้น ทั้งไม้เลี่ยมและไม้แผ่นที่ครอบครองทั้งหมดนั้น 4.35 ลบม.ถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะและในการครอบครองเกิน 02. ลบม.ถือว่าครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ.กรกฎ โปชยวณิช ผกก.สภ.ด่านช้าง กล่าวว่า ในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จะทำการตรวจยึดและทำบันทึกการกล่าวโทษส่งมายังสถานีตำรวจภูธรอำเภอด่านช้าง เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอน สำหรับในคดีนี้ก็ขอให้มั่นใจว่าเราจะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้กังวลว่าผู้กระทำความผิดหรือผู้ที่ถูกกล่าวโทษ จะเป็นข้าราชการแต่อย่างใด เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่เรากวดขันและเป็นนโยบายของรัฐบาล
ในส่วนของดาบตำรวจทั้ง 2 นาย จะทำตามกระบวนการสอบสวน ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าทางส่วนกลางจะเข้ามาร่วมทำการสอบสวนด้วยก็ยินดี และดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะข้าราชการทุกหมู่เหล่าจะต้องเป็นแบบอย่างให้ประชาชน