‘ศุภาลัยไอคอน’บิ๊กโปรเจคมิกซ์ยูส 2หมื่นล้าน

‘ศุภาลัยไอคอน’บิ๊กโปรเจคมิกซ์ยูส 2หมื่นล้าน

ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตมากกว่าปีก่อน ด้วยปัจจัยเศรษฐกิจประเทศขยายตัวต่อเนื่อง จากการส่งออกและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอัตราดอกเบี้ยทรงตัว

ประกอบกับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นและเริ่มกลับเข้าสู่การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้

ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการดำเนินธุรกิจอสังหาฯ ของศุภาลัย วางเป้าหมายเติบโตอย่างยั่งยืนเฉลี่ยปีละ 15-20% ที่ผ่านมาสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว จากการลงทุนที่อยู่อาศัยแนวราบ ในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และโครงการแนวสูง ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่  รวมทั้งการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบในต่างประเทศร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น พร้อมทั้งขยายธุรกิจประเภทเช่าเพื่อสร้างรายได้ประจำ

สำหรับแผนการลงทุนปีนี้ โปรเจคใหญ่ คือการเปิดตัวแผนพัฒนาที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย บนถนนสาทร ติดถนนสวนพลู ซึ่งเตรียมพัฒนาที่ดินเป็นโครงการมิกซ์ยูส  ประกอบด้วย อาคารชุดพักอาศัยและอาคารสำนักงานให้เช่า พื้นที่ค้าปลีก โรงแรม คาดว่ามูลค่าโครงการจะอยู่ที่ 18,000-20,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวช่วงไตรมาส 4 โดยใช้ชื่อโครงการว่า “ศุภาลัย ไอคอน” ซึ่งจะพัฒนาให้เป็นแลนด์มาร์คใหม่บนถนนสาทร 

"การพัฒนาที่ดินสถานทูตออสเตรเลียยังไม่นิ่ง มูลค่าอาจแตะ 2 หมื่นล้านบาท อยู่ที่แผนการลงทุนว่าต้องการพัฒนาพื้นที่ประเภทใด ขณะนี้มีผู้สนใจต้องการพันธมิตรพัฒนาพื้นที่ในส่วนที่เราไม่ถนัดหลายราย และกำลังดูแนวทางที่เหมาะสม" 

ปี61เปิดโครงการ4หมื่นล้าน

ด้าน ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการดำเนินงานปี 2560 ที่ผ่านมาได้หลายโครงการได้รับการตอบรับดี เช่น คอนโดหรู ศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร สามารถปิดการขายได้ภายในวันแรกที่เปิดจอง ทำให้ปีที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายกว่า 30,777 ล้านบาท เติบโต 27% เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มียอดขาย 24,132 ล้านบาท และเติบโตเกินเป้า 14% เมื่อเทียบกับเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ 27,000 ล้านบาท 

ทั้งนี้ การเติบโตมาจากยอดขายคอนโด 15,440 ล้านบาท และแนวราบ 15,337 ล้านบาท โดยเปิดตัวโครงการทั้งหมด 20 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 15 โครงการ และคอนโด 5 โครงการ มูลค่า 31,220 ล้านบาท

สำหรับแผนงานปี 2561 ตั้งเป้าหมายยอดขาย 33,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 26,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 35 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 30 โครงการ และคอนโด 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท เติบโต 28%  โดยปี 2561 มีแบ็คล็อก 10,901 ล้านบาท  กำหนดงบประมาณจัดซื้อที่ดินปีนี้  9,000 ล้านบาท

ลุยต่างจังหวัด-ตปท.

ไตรเตชะ กล่าวอีกว่าปีนี้จะได้เห็นการต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา และเตรียมพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ในหลากหลายด้าน เพื่อปรับตัวทำตลาดตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมก้าวเข้าสู่อสังหาฯ ยุค 4.0 รับมือกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อาทิ ด้านแผนการเปิดตัวโครงการ จะมีการเปิดตัวบิ๊กโปรเจคบนที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย ถนนสาทร โดยในส่วนของคอนโดจะเป็นกลุ่มลักชัวรีในราคาที่น่าสนใจ 

อีกทั้งมีการขยายโครงการสู่ตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น โดยจะเริ่มบุกตลาดอสังหาฯ ใน จ.เชียงราย รวมทั้งพื้นที่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งมีที่ดินรอการพัฒนากว่า 10 แปลง  ปีนี้วางแผนเปิดโครงการแนวราบ จ.ชลบุรี 4-5 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท  และ จ.ระยอง 2 โครงการ มูลค่า 1,000 ล้านบาท  ที่ผ่านมาศุภาลัย เป็นบริษัทที่ลงทุนที่อยู่อาศัยในพื้นที่อีอีซี มากที่สุดรายหนึ่ง 

ขณะเดียวกันยังมุ่งเน้นขยายตลาดต่างประเทศ เช่นการร่วมลงทุนกับบริษัทอสังหาฯ ในออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนไปแล้ว 6 โครงการ ปีนี้จะลงทุนเพิ่ม 1-2 โครงการ และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในประเทศอาเซียนต่างๆ

พัฒนาดีไซน์-นวัตกรรม

ด้านสินค้าและผลิตภัณฑ์ มีการปรับโฉม พัฒนาแบบบ้านรูปแบบใหม่ ภายใต้แบรนด์ใหม่ Essence ที่พัฒนาขึ้นมาให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในยุคดิจิทัล และยังมีการนำนวัตกรรม เทคโนโลยี เข้ามาปรับใช้ในโครงการใหม่ๆของบริษัทฯ เช่น ระบบ Home automation, Home security เป็นต้น รวมทั้งมีการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้เอื้ออำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้สูงอายุมากขึ้น

ด้านกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขาย สานต่อการใช้สื่อออนไลน์อย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นเฟชบุ๊ค ไลน์ ยูทูบ เว็บไซต์ และอินสตาแกรม เพื่อสื่อสารถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และนำเสนอโปรโมชั่นใหม่ๆ ตลอดทั้งปี