DSIตั้ง6ข้อหา'ป๋ากบ'หัวหน้าเชียร์แขกวิคตอเรียซีเครท

จากกรณี พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอและเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ได้นำกำลังเข้าจับกุมสถานบริการวิคตอเรียซีเครท หลังได้รับการร้องเรียนว่า สถานบริการดังกล่าวมีการลักรอบค้าประเวณีเด็กอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาแอบแฝงค้าประเวณี โดยสามารถควบคุมหญิงให้บริการทั้งหมดกว่า 100 คน และทั้งหมดไม่พบบัตรประจำตัว หรือพาสปอร์ต นอกจากนี้ยังสามารถจับกุม นายบุญทรัพย์ หรือ ป๋ากบ อมรรัตนสิริ อายุ 55 ปี หัวหน้าเชียร์แขก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 26/2561 ลงวันที่ 8 ม.ค. ในฐานความผิดข้อหาค้าประเวณี

ทั้งนี้ ผลจากการตรวจค้นพบว่า สถานบริการอาบอบนวด "วิคตอเรียซีเครท" มีการนำพาเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาค้าประเวณีในประเทศไทย เริ่มจากการนำพาเข้ามาขายบริการในการให้เปิดบริสุทธิ์ ซึ่งเข้าลักษณะความผิดฐานค้ามนุษย์ อันเป็นความผิดที่กระทำลงนอกราชอาณาจักรไทย

โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับนายบุญทรัพย์ ผู้ต้องหา รวมทั้งหมดกว่า 6 ข้อหา อาทิร่วมกัน ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหาซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด, หน่วงเหนี่ยวกักขัง , ร่วมกันเป็นเจ้าของกิจการค้าประเวณี , รู้เห็นการมาของคนต่างด้าวโดยผิดกฏหมาย, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้จากการสอบปากคำนายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือ ป๋ากบ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาค้ามนุษย์

โดยคืบหน้า เมื่อเช้าที่ผ่านมา วันที่ 13 ม.ค ที่ศาลอาญา รัชดา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้นำตัว นายบุญทรัพย์ หัวหน้าเชียร์แขก ไปขออำนาจฝากขังในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ พร้อมระบุท้ายคำร้องคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกครั้งคดีดังกล่าวมีอัตราโทษสูง

ทางด้านพ.ต.ท. ณัฐพล คูหาเรืองรอง เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ เปิดเผยว่า นอกเหนือจากหมายจับของศาลอาญาแล้ว นายบุญทรัพย์ หรือป๋ากบ อมรรัตนสิริ ผู้ต้องหายังมีหมายจับในคดีต่างๆรวม 10 ข้อหา ทั้งความผิดตาม พรบ.การค้ามนุษย์ ซึ่งเกิดขึ้นล่าสุด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีและความผิดทางอาญา

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าภายในสถานบริการดังกล่าวมีการตั้งห้องลักษณะคล้ายสถานพยาบาล และมียา หรือเวชภัณฑ์ที่ไม่สามารถจ่ายให้หรือฉีดให้ในที่ดังกล่าวนั้น ขณะนี้จากการตรวจสอบในหมายจับ และสำนวนยังไม่มีข้อหาที่เกี่ยวกับสถานพยาบาล ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบภายในห้องดังกล่าว ว่าจะมีความผิดเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาลหรือไม่ ขณะที่ ตู้เซฟ ที่ตรวจยึดมาได้ยังไม่ได้มีการเปิดแต่อย่างใด โดยจะให้ช่างที่มีความชำนาญมา ทำการเปิดในวันจันทร์นี้ เพื่อตรวจหาเอกสารและหลักฐานเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหยื่อทั้งหมดมีรวม 113 คน ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาทำการสอบสวน ที่ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนางานตำรวจตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ดอนเมือง เพื่อทำการคัดแยกผู้เสียหายเบื้องต้น โดย แยกเป็นสัญชาติพม่า 96 (ไทยใหญ่ ) สัญชาติ ลาว 11 สัญชาติ จีน จำนวน 2 มาจากสิบสองปันนา และไทย 4 คน อายุ 18-25 ปี โดยภายในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่จะคัดแยกกลุ่มของเหยื่อ ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จากการวิเคราะห์ พบว่าบางคนหน้าตาเด็ก มีอยู่ประมาณ 14 คน

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องมีการลงความเห็น ของหลายฝ่ายนำมาประกอบกัน ประกอบด้วยฝ่ายสืบสวนดีเอสไอ กรมการปกครอง กรมพัฒนาสังคม พนักงานสอบสวน เพื่อตรวจอายุกระดูก เพื่อให้ได้ข้อมูลของอายุโดยการ(เอกซ์เรย์ฟัน- ข้อกระดูก) ก็จะได้อายุที่แท้จริง

ทางด้าน พล.ต.อ. ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 สํานักงานตํารวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า หญิงบริการที่ควบคุมตัวได้เมื่อวานนี้เป็นสัญชาติเมียนมาร์ 96 คน สัญชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 11 คน สัญชาติจีนสิบสองปันนา 2 คนและคนไทย 4 คน โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่จะคัดแยกกลุ่มของหญิงบริการให้ชัดเจนเริ่มตั้งแต่กลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปี อายุมากกว่า 18 ปี ถ้าเป็นคนต่างด้าวก็จะพิสูจน์ทราบว่า หนังสือแสดงสัญชาติหรือพาสปอร์ตเป็นของจริงหรือไม่ หากไม่มีพาสปอร์ตก็จะทำการสอบถามในเบื้องต้น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน ก่อนจะตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อมูลที่แท้จริงต่อไป

จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า หญิงบริการทั้งหมดที่พบอยู่ในฐานะของผู้เสียหายและถูกบังคับให้ค้าประเวณี เนื่องจากพบหลักฐานเป็นกฎระเบียบของสถานบริการดังกล่าวที่กำหนดชัดเจนว่าใน 1 วันจะต้องรับแขกให้ได้มากกว่า 3 คน จึงจะกลับบ้านได้ และใน 1 เดือนจะต้องทำงานต่อเนื่อง 12 วัน หากไม่ทำตามเงื่อนไขจะตัดเงิน หรือไล่ออก ซึ่งลักษณะดังกล่าวถือว่าเป็นการบังคับให้ค้ามนุษย์

ส่วนข้อมูลการสืบสวนที่พบว่าสถานบริการดังกล่าวมีการส่งต่อเด็กในสังกัดไปยังสถานบริการอื่นในต่างจังหวัด และประเทศเพื่อนบ้านทางภาคใต้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่า เป็นลักษณะเครือข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่หากพบว่ามีลักษณะความผิดเข้าข่ายก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติม

สำหรับประเด็นการปิดสถานบริการดังกล่าวเบื้องต้นได้พิจารณาใช้มาตรการของกรมการปกครองสั่งปิดสถานบริการดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปีและให้เจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมดูแลในพื้นที่จนกว่าจะเก็บพยานหลักฐานทั้งหมดเสร็จสิ้น และภายหลังจากครบ 5 ปีแล้วพื้นที่ที่ตั้งสถานบริการดังกล่าวจะไม่สามารถเปิดสถานบริการในรูปแบบเดิมได้อีก นอกจากนี้จะส่งเรื่องต่อให้สำนักงานปปง.พิจารณาตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินต่างๆเพื่อทำการหยุดรักอายัดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดินตามข้อหาการค้ามนุษย์ต่อไป

ส่วนข้อมูลที่ปรากฏเป็นภาพภายในสถานบริการดังกล่าวมีการสร้างเป็นห้องแพทย์พร้อมทั้งมีอุปกรณ์การแพทย์ยาและเวชภัณฑ์ซึ่งไม่สามารถจ่ายหรือฉีดให้จับหญิงบริการในสถานที่ดังกล่าวได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมส่งเสริมบริการสุขภาพให้เข้ามาตรวจสอบในจุดดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่หากพบว่าเข้าข่ายความผิดก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับเจ้าของและผู้เกี่ยวข้องกับสถานบริการ