'โด่ง เอเอฟ' พร้อมไกล่เกลี่ยหลังโดนกรีดรถเป็นรอย!!

นายศิระ รัตนโภคาสถิต อายุ 37 ปี หรือโด่ง เอเอฟ 3 พร้อมภรรยา นางสาวภัสสร รัตนโภคาสถิต อายุ 36 ปี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นพล สุขบุญคง ผกก.สน.เตาปูน, พ.ต.ท.สราวุฒิ พงศ์วัชร์ รองผกก.(สอบสวน) กรณีถูกหญิงสาวกรีดรถฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ เป็นรอยทางขวาจากหน้ารถไปยังหลังรถ โดยรถจอดอยู่ที่ลานจอดรถชั้น 2 ของคอนโดแห่งหนึ่งย่านประชาชื่น โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุนายศิระได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับทาง ร.ต.อ.ชยพล ไทยโสภา รองสว.(สอบสวน) สน.เตาปูน เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา

นายศิระ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้จอดรถปิดรถที่จอดอยู่ในซองจอด ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค. โดยเข้าเกียร์ว่างคือ N และไม่ได้ดึงเบรกมือ ทำให้สามารถเข็นรถได้ คาดว่าคู่กรณีที่เป็นหญิงสาว ซึ่งเป็นผู้เช่าคอนโดฯดังกล่าว ลงมาเข็นรถแต่เข็นไม่ไหว จึงได้กรีดรถด้วยความโมโห จากนั้นมีผู้ชายมาเห็นและได้มาช่วยเข็นรถไป หลังเกิดเหตุตนได้ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด พบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชัดเจน ทั้งนี้ ตนขอข้อมูลจากทางคอนโดมิเนียม โดยใช้เวลา 2 วัน จนเมื่อวันที่ 12 ม.ค. เมื่อมีข่าวแพร่ไปในโลกอินเทอร์เน็ตทางแม่กับพี่สาวคู่กรณีได้มาติดต่อ พร้อมกับพูดคุย ทีแรกคุยไม่ดี พูดว่าแค่กรีดรถทำไมต้องอาฆาตด้วยเท่านั้น แต่พอคุยรอบ 2 ทางมารดาคู่กรณีน้ำเสียงอ่อนลง รู้สึกตกใจ โดยตอนแรกไม่รู้ว่าลูกไปกรีดรถ จึงได้ขอโทษและยินดีรับผิดชอบค่าเสียหาย

จากนั้นเมื่อช่วงดึกของเมื่อวานนี้ ทางคู่กรณีได้โทรศัพท์มาขอโทษ โดยยังบอกว่าเป็นแฟนคลับของตนด้วย สาเหตุที่ทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ จากการพูดคุยไม่มีการอ้างว่าเป็นข้าราชการแต่อย่างใด มีเพียงมารดาคู่กรณีพยายามพูดว่า อย่าไปแจ้งความเลยเพราะอยู่ในคอนโดเดียวกัน ตนตอบไปว่าเพราะอยู่คอนโดเดียวกันทำไมถึงนิ่งเฉยไป 2 วันจนเป็นข่าวแบบนี้

"วันนี้จึงได้เดินทางมาที่ สน.เตาปูน เพื่อมาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี โดยอยากให้ 1.คู่กรณีมาขอโทษต่อหน้า 2.ให้สำนึกที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน 3.รับผิดชอบค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 35,000 บาท และอย่าไปทำกับใครอีก ตนไม่อยากแจ้งความเป็นคดี แค่อยากให้คู่กรณีมาพบ และทำตามก็จบ พวกตนก็ให้อภัยแล้ว และอยากซ่อมรถ เพราะไปไหนมาไหนก็ลำบาก เพราะมีรอยกรีดดังกล่าว" นายศิระ กล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์หาคู่กรณีให้มาพบที่ สน.เตาปูน เพื่อไกล่เกลี่ยคดี แต่คู่กรณียังไม่ยอมเดินทางมาพบแต่อย่างใด

ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม dongsira และ djaompassorn