‘สุทธิชัย หยุ่น’ลาเนชั่น แนะสื่อปรับตัวมุ่งคอนเทนท์-เทคโนโลยี

‘สุทธิชัย หยุ่น’ลาเนชั่น แนะสื่อปรับตัวมุ่งคอนเทนท์-เทคโนโลยี

“สุทธิชัย หยุ่น”เกษียณทำงานเนชั่น มีผล 5 มี.ค.นี้ แนะสื่อปรับตัวใช้เทคโนโลยี มุ่งสร้างสรรค์คอนเทนท์คุณภาพ เพื่อ“อยู่รอด” เตรียมเขียน “หนังสือ” ถ่ายทอดประสบการณ์ทำงาน 47 ปี วงการสื่อ พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์ข่าวผ่าน “เฟซบุ๊คไลฟ์”

ผู้บริหารและพนักงานเครือเนชั่น ทั้งพนักงานปัจจุบันและศิษย์เก่าเนชั่น  ร่วมงานอำลาการเกษียณการทำงาน ของคุณสุทธิชัย หยุ่น  ผู้ก่อตั้งเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2561  หลังจากทำงานด้านสื่อสารมวลชนมากว่า 47 ปี

นายสุทธิชัย กล่าวว่าสัญญาการทำงานกับเครือเนชั่น ฉบับล่าสุดระยะเวลา 3 ปี จะสิ้นสุดในวันที่ 5 มี.ค.2561  จึงใช้โอกาสนี้เกษียณการทำงานในวัย 72 ปี  หลังจากทำงานมากว่า 47 ปี  โดยจะเขียนคอลัมน์ “กาแฟดำ”  ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 28 ก.พ.นี้ เป็นวันสุดท้าย และยุติรายการไทม์ไลน์ ทางเนชั่นทีวี  ในสิ้นเดือน ก.พ.นี้

พร้อมทั้งเปิดทางให้กลุ่มทุนใหม่ ที่เป็นผู้ถือหุ้นเครือเนชั่นเข้ามาบริหารต่อไป ซึ่งเป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้นและเป็นไปตามกฎหมาย โดยตนเองยังคงถือหุ้นเนชั่นที่มีอยู่ต่อไป 

“เป็นจังหวะที่จบสัญญา 3 ปี ในเดือน มี.ค.นี้ พอดี จึงต้องการพักผ่อนในวัย 72 ปี และไม่มีความขัดแย้งกับกลุ่มทุนใหม่”

ทำเฟซบุ๊คไลฟ์-เขียนหนังสือ

นายสุทธิชัย กล่าวว่าหลังยุติการทำงานที่เครือเนชั่น  ยังคงทำหน้าที่ถ่ายทอดประสบการณ์มุมมองด้านข่าวสารและประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง  ผ่าน โซเชียล  มีเดีย“เฟซบุ๊ค ไลฟ์” พร้อมทั้งศึกษาด้านเทคโนโลยีใหม่  เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)  แพลตฟอร์มสื่อใหม่ ที่จะมาช่วยสนับสนุนการทำงานด้านสื่อสารมวลชนในประเทศไทย หวังให้วงการสื่อปรับตัวอยู่รอด และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 

นอกจากนี้ ตั้งใจจะเขียนหนังสือบอกเล่าประสบการณ์การทำงานด้านสื่อสารมวลชนตลอด 47 ปี  การปรับตัวของสื่อในเครือเนชั่น จากวิกฤติต่างๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ การเงิน เทคโนโลยี  รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีและดิจิทัล แพลตฟอร์มใหม่ๆ มาใช้ประโยชน์ในการทำงานด้านสื่อ  

“การทำงานช่วงวิกฤติที่ผ่านมา หลังผ่านมาได้ เราแข็งแรงขึ้นเสมอ” 

แนะสื่อมุ่งคอนเทนท์คุณภาพ

นายสุทธิชัย กล่าวว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมสื่อที่ผ่านมา ทั้งทีวีดิจิทัล ที่มีช่องใหม่เพิ่มขึ้น 22 ช่อง รวมทั้งการขยายตัวของสื่อใหม่ในยุคดิจิทัล ที่แข่งขันกันแย่งผู้ชม มุ่งที่ตัวเลขเรทติ้ง จึงเน้นนำเสนอข่าวตามกระแสสนใจ ซึ่งอาจเป็นคอนเทนท์ที่สังคมไม่ได้ประโยชน์  จะเห็นได้ว่าสื่อทีวีวันนี้ เน้นทำข่าวตามกระแสสื่อออนไลน์ รวมทั้งเน้นเนื้อหาบันเทิง เพื่อเป้าหมายเรทติ้ง

อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าการสร้างสรรค์คอนเทนท์คุณภาพ แตกต่าง ข้อมูลถูกต้อง เป็นไปตามจริยธรรมสื่อ  ยังเป็นสิ่งที่ผู้ชมในทุกยุคต้องการเสพ และเป็นหลักการทำงานสื่อที่เครือเนชั่นยึดมั่นมากว่า 40 ปี  

“การเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยีในช่วง 3 ปีจากนี้  จะรุนแรงมากขึ้น สื่อต้องปรับตัวให้ทันและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี นำเสนอคอนเทนท์ในทุกช่องทางที่เข้าถึงผู้บริโภค เชื่อว่าคอนเทนท์คุณภาพ แตกต่าง และหาไม่ได้จากที่ไหน ยังดึงดูดกลุ่มผู้เสพสื่อได้เสมอ” 

ในยุคที่สื่อแข่งขันสูงผู้บริโภคมีทางเลือกเสพคอนเทนท์หลากหลายช่องทาง  แต่เชื่อว่า “ความแตกต่างและคุณภาพ”  จะเป็น “ตัวเลือก”ของผู้เสพสื่อในทุกยุค พร้อมทั้งปรับตัวไปตามเทคโนโลยี จะเป็น“ทางรอด”ของคนทำสื่อในยุคนี้   

เนชั่นเวย์ “ผิดจากนี้..ไม่ใช่เรา”

นายสุทธิชัย  ย้ำกับคนเนชั่นว่า “จงภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของเนชั่น หรือเคยเป็นส่วนหนึ่งของเนชั่น เพราะนี่คือสถาบันที่เราตื่นเช้าทุกเช้าแล้วบอกกับตัวเองได้ว่าเราเป็นสื่อมีศักดิ์ศรี”

การทำงานสื่อของเครือเนชั่น มีคู่มือ “Nation Way” เป็นหลักจริยธรรมของคนข่าว ที่ต้องย้ำว่า “ผิดจากนี้ไม่ใช่เรา”

“มีคนบอกว่าเราอหังการ์ มีคนบอกว่าเราน่าหมั่นไส้ ตอนที่ออกกติกาว่าด้วยจริยธรรมให้แก่นักข่าวทุกคน บรรณาธิการทุกคน เพราะเป็นพันธะกรณีกับสังคม จากการเป็นสื่อต้องทำหน้าที่ตาหลักจริยธรรม หากเราผิดจากกติกาข้อไหน สังคมสามารถรายงานและลงโทษได้”

ด้งหลักดังกล่าว จึงเป็นจุดแข็งและเป็นจุดที่สังคมให้ความไว้เนื้อเชื่อใจในความเป็นเนชั่นว่า “เราซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของเราและเราทำจริงๆ”

“ผมหวังว่าเราจะมีภูมิต้านทาน ความพร้อมที่จะปรับตัวจากนี้ไป สำหรับทุกคนที่ยังต้องเดินเส้นทางนี้ต่อไป”

นักสื่อสารสร้างแรงบันดาลใจ 

นายเทพชัย หย่อง  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คุณสุทธิชัย เป็นผู้ก่อตั้งเครือเนชั่น ที่เป็นผู้จุดกระแสการทำงานสื่อสารมวลชนหลายด้าน เริ่มตั้งแต่การจัดตั้งหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ โดยคนไทย การเปิดตัวหนังสือพิมพ์แนวเศรษฐกิจ “กรุงเทพธุรกิจ” ,การเปิดตัวสื่อวิทยุ ,การเปิดตัวหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ไอทีวี มาถึงยุค “เนชั่นทีวี” รวมทั้งการรุกเข้าสู่สื่อออนไลน์ในยุคแรกๆ เมื่อ 10 ปีก่อน

การทำงานของคุณสุทธิชัย ในฐานะผู้นำเครือเนชั่น ถือเป็นแบบอย่างที่ดี มีวิสัยทัศน์สร้างการเปลี่ยนแปลง  การทำงานสื่อบนพื้นฐานที่ถูกต้องตามหลักจริยธรรมสื่อ  รวมทั้งการนำพาองค์กรให้ผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ ในช่วงกว่า 40 ปีที่ผ่านมา  ในหลายวิกฤติสื่อในเครือเนชั่น  แสดงจุดยืนชัดเจนต่อการทำหน้าที่ตามจริยธรรมสื่อ บนข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ 

“บทบาทการทำหน้าที่สื่อของคุณสุทธิชัย ถือเป็นผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจ ให้คนเนชั่นและแวดวงสื่อมวลชน” 

“เทพชัย”จบสัญญาบริหาร เม.ย.นี้

นายเทพชัย กล่าวว่าการเข้ามาบริหารเครือเนชั่นที่ผ่านมาของตนเอง ในปี 2559 ถือว่าเข้ามาในช่วงที่มีวิกฤติขาดผู้บริหารองค์กรในขณะนั้น  โดยเป็นการทำงานในลักษณะสัญญาจ้าง  ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาในเดือน เม.ย.2561  เพื่อเปิดทางให้กลุ่มทุนใหม่เข้ามาบริหารเนชั่นตามสัดส่วนการถือหุ้นและตามกฎหมาย 

สำหรับการบริหารเครือเนชั่นหลังจากนี้ จะเป็นหน้าที่ของกลุ่มทุนใหม่ เชื่อว่าด้วยประสบการณ์การทำงานของบุคลากรเนชั่นและประวัติความเป็นเนชั่น จะเป็นจุดยืนที่สามารถขับเคลื่อนการทำงานได้ต่อไปในยุคต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงทั้งกลุ่มทุนใหม่และด้านเทคโนโลยี