อดีตภรรยานักร้องดาวรุ่ง แฉรับเลี้ยงหมา แต่เมินลูก

อดีตภรรยานักร้องดาวรุ่ง แฉรับเลี้ยงหมา แต่เมินลูก

อดีตภรรยานักร้องหนุ่มดาวรุ่ง แฉอดีตสามีโพสต์ดราม่าสร้างภาพ เป็นคนใจบุญรับเลี้ยงน้องหมาแต่กลับไม่เหลียวแลส่งเสียลูกชายวัย 2 ขวบที่พิการขาผิดรูป

น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า เป็นอดีตภรรยาของนักร้องหนุ่มดาวรุ่งเจ้าของบทเพลงที่กำลังโด่งดัง พร้อมระบุ ที่อดีตสามีโพสต์เรื่องราวได้เจอน้องหมาซึ่งหายไปนานกว่า 10 ปี แล้วรับน้องหมาตัวดังกล่าวไปเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ไม่เป็นเรื่องจริง น้องหมาไม่ได้หายไป น้องหมาตัวดังกล่าวอยู่บ้านย่านสายไหม กรุงเทพฯ ที่นักร้องหนุ่มเคยเช่าพักอาศัยอยู่กับครอบครัว แต่พอช่วงที่น้ำท่วม เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักร้องหนุ่มก็ย้ายออกไปเช่าบ้านอยู่แถวปิ่นเกล้า แต่ไม่ได้เอาน้องหมาไปด้วย ให้ป้าเป็นคนเลี้ยง และเวลาที่อดีตสามีไปเยี่ยมป้าก็ยังได้เจอกับน้องหมา ไม่ได้หายไปนานเป็น 10 ปี ตามที่อดีตสามีโพสต์แต่อย่างใด ก็ไม่ทราบเจตนาว่าทำไมถึงออกมาโพสต์แบบนั้น

ส่วนที่ตนเองออกมาเปิดเผยความจริง เพราะไม่อยากให้อดีตสามีหลอกลวงสังคม หรือแฟนคลับ ทั้งที่ตัวเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าความจริงคืออะไร และที่ทำให้รู้สึกเสียใจคือ หากอดีตสามีรับสุนัขไปเลี้ยงดูเป็นอย่างดี และตัวเองก็ใช้ชีวิตอยู่สุขสบาย ทำไมถึงไม่เหลียวแลส่งเสียลูกชายวัย 2 ขวบเศษ ที่ป่วยพิการขาซ้ายผิดรูปมาตั้งแต่เกิด ต้องเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ เป็นระยะ หลังจากมีการโพสต์ในโลกโซเชียล ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ก็ต่อว่านักร้องหนุ่มที่ตัวเองโด่งดังแล้วทำไมจึงไม่เหลียวแลลูก

อดีตภรรยานักร้องหนุ่ม ยังบอกอีกว่า สาเหตุที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว เพราะต้องการให้สังคมได้รับรู้ความจริง และอยากให้อดีตสามีมาแสดงความรับผิดชอบส่งเสียงดูแลลูกบ้างในฐานะคนเป็นพ่อ เพราะตอนนี้ตัวเองก็ไม่ได้ทำงาน ต้องดูแลพาลูกไปหาหมอตามนัด ส่วนตัวเองยืนยันว่าไม่ได้ต้องการสามีคืน เพราะรู้ว่าขณะนี้ก็มีแฟนใหม่แล้ว แต่อยากให้มีจิตสำนึกทำหน้าที่พ่อบ้าง และยืนยันว่าไม่ได้ต้องการทำลายชีวิตใคร ซึ่งหลังจากเลิกรากันมากว่า 1 ปี และสามีไปมีแฟนใหม่ ตนก็ไม่เคยไปเรียกร้องอะไร จำใจยอมรับความจริงมาตลอด กระทั่งอดีตสามีออกมาโพสต์เฟซว่ารับเลี้ยงน้องหมาที่หายไป 10 ปี จึงเกิดความรู้สึกว่าทำไมน้องหมายังรับเลี้ยงดูแลอย่างดีได้ แต่ทำไมไม่ดูแลส่งเสียลูกในไส้ของตัวเองบ้าง