คืบหน้าคดีฆ่า "เสี่ยคิม บัวใหญ่" ญาติปักใจเชื่อเป็นฝีมือคู่อริที่เคยทำร้ายกันเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ด้านตำรวจโคราชเผยทราบเบาะแสคนร้ายแล้ว
รายงานความคืบหน้า คดีคนร้ายใช้อาวุธปืน ยิงนายวีระชัย ล้ออริยธนโชติ หรือเสี่ยคิม อายุ 41 ปี นักธุรกิจชื่อดังในอำเภอบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา เสียชีวิตต่อหน้าแฟนสาว ขณะกำลังขับรถกระบะกลับบ้าน โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.15 น. คืนวันที่ 10 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เช้าวันนี้ (12 ม.ค. 61) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว โดยพบว่าญาติๆ ได้นำศพของนายวีระชัย ล้ออริยธนโชติ หรือเสี่ยคิม ไปตั้งไว้ในศาลาบำเพ็ญกุศลศพวัดประชานิมิต ในเขตเทศบาลเมืองบัวใหญ่ เพื่อที่จะประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพ เป็นระยะเวลา 3 วัน ก่อนที่จะทำพิธีฌาปนกิจศพ ในวันอาทิตย์ที่ 14 มกราคมนี้ โดยญาติคนหนึ่งของเสี่ยคิม (สงวนนาม) ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูร้านอาหารชมจันทร์ ซึ่งอดีตเคยเป็นสถานบันเทิงชื่อ มังกี้ผับ ที่บรรดาญาติๆ เชื่อว่าอาจเป็นจุดต้นเหตุของเรื่องความขัดแย้งกับคู่อริ ก่อนที่จะมาถูกดักยิงเสียชีวิตในครั้งนี้
โดยเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ขณะนั้นเสี่ยคิมได้เปิดสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ชื่อมังกี้ผับ อยู่ในเขตเทศบาลเมืองบัวใหญ่ และเคยมีเรื่องถูกคู่กรณี 3 คนทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยคู่กรณีหนึ่งในนั้น ได้ใช้ด้ามปืนทุบตีเสี่ยคิมจนเป็นแผลฉกรรจ์ อาการสาหัส หลังจากนั้นก็ได้มีการฟ้องคดีทำร้ายร่างกาย จนขึ้นโรงขึ้นศาล ซึ่งมีคู่กรณี 2 คน ถูกตัดสินจำคุกไปแล้ว 2 ราย แต่มีอยู่ 1 ราย ที่ได้ใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกมา และไม่ยอมไปฟังคำตัดสินของศาล โดยช่วงหลังๆ มานี้ก็ได้มีการพยายามติดต่อขอยุติคดีนี้ แต่เสี่ยคิมไม่ยอม จะให้ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ต่อมาก็มีการโทรศัพท์มาข่มขู่จะฆ่าหลายครั้ง ดังนั้นจึงอาจจะทำให้เป็นชนวนทำให้คู่กรณีรายนี้ ตัดสินใจฆ่าเสี่ยคิมก็เป็นได้ ส่วนจะเป็นอย่างที่ญาติสันนิษฐานนี้หรือไม่ ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพื่อทำการสืบสวนตามขั้นตอน และจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะญาติๆ ก็กลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยเหมือนกัน
ด้าน พ.ต.อ.คารม บุญสด ผกก.สภ.บัวใหญ่ เปิดเผยว่า คดีนี้ถือว่าเป็นคดีฆ่ากันตายอุกฉกรรจ์ ซึ่งทาง พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้กำชับให้มีการเร่งคดีเพื่อจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เบื้องต้นได้เบาะแสของคนร้ายรายนี้แล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ที่เคยมีความขัดแย้งส่วนตัวกัน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนลงพื้นที่จับตาดูความเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัยอย่างใกล้ชิด ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานและหลักฐาน ก่อนที่จะออกหมายจับ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป