(สกู๊ป) 5โปรหญิงลุ้นคว้าแชมป์แอลพีจีเอแรกในอาชีพ

      โดยทัวร์นาเมนต์แรกที่จะทำการแข่งกัน นั่นก็คือ “เพียว ซิลล์ บาฮามาส แอลพีจีเอ คลาสสิก” ที่สนาม โอเชียน คลับ เกาะบาฮามาส สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 25-28 ม.ค.นี้ ซึ่งแน่นอนว่าโปรหญิงชื่อดังจากทั่วโลก ทั้ง เฟิง ชานชาน, ปาร์ค ซัง-ฮยอน, ริว โซ-ยอน, เล็กซี ธอมป์สัน และ 2 พี่น้อง จุฑานุกาล จะตบเท้าเข้าร่วมชิงชัยกันอย่างครบครัน
     อย่างไรก็ตามก่อนการแข่งขันแรกของปีจะเริมขี้น เว็บไซต์ทางการของแอลพีจีเอ ทัวร์ ได้จัดอันดับ 5 นักกอล์ฟสาวที่มีโอกาสลุ้นคว้าแชมป์แรกของตัวเองในการแข่งขันฤดูกาล 2018 นี้ ซึ่งมีโปรหลายคนที่น่าติดตามฟอร์ม

1.โมรียา จุฑานุกาล
      เมื่อช่วงปีที่แล้วถือว่าเป็นปีทองของ “โปรโม” อย่างแท้จริง เนื่องจากเธอขยับผลงานได้อย่างโดดเด่นด้วยการคว้าที่ 7 ของศึกฮอนด้า แอลพีจีเอ ในเดือน มี.ค. ก่อนจะจบอันดับท็อป 10 ได้ 4 รายการติดต่อกันในเดือน พ.ค.-มิ.ย. ประกอบด้วย วอลวิก แชมเปียนชิพ, ช็อปไรส์ แอลพีจีเอ คลาสสิก, เมยเจอร์ แอลพีจีเอ คลาสสิก และ วอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปียนชิพ ซึ่งทัวร์นาเมนต์สุดท้ายเธอคว้ารองแชมป์ร่วมมาครองอีกด้วย
      จากนั้น โปรโม ก็ยังฟอร์มไม่ตก ด้วยการได้อันดับ 3 อีก 2 รายการ คือ แคมเบีย พอร์ทแลนด์ และเอวิยอง แชมเปียนชิพ ในเดือน ก.ค.และ ส.ค. รวมไปถึงในรายการ บลู เบย์ แอลพีจีเอ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์รองสุดท้ายของปี เธอก็ยังคว้ารองแชมป์แบบน่าเสียดาย ถึงกระนั้นจากผลงานทั้งหมดก็ทำให้เธอจบปีในอันดับสูงสุดนับตั้งแต่เทิร์นโปรในปี 2012 ด้วยตำแหน่งมือ 22 ของโลก
      โดยเจ้าตัวกล่าวถึงเป้าหมายในปีนี้ว่า อยากฝึกซ้อมให้มากกว่าเดิม เพื่อจะพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ เพราะยังมีจุดด้อยอยู่ รวมถึงเรื่องอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าที่จะเร่งรักษา ซึ่งหากเธอมีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์เชื่อว่า โมรียา มีโอกาสจะสามารถหยิบโทรฟีแรกของตัวเองมาครองได้

2.โจดี้ อีวอร์ท ชาดอฟฟ์
      แฟนๆกอล์ฟหลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นชื่อโปรสาวรายนี้เสียเท่าไหร่ แต่ที่จริงๆแล้วเธอเริ่มแข่งขันกอล์ฟอาชีพมาตั้งแต่ปี 2010 แล้ว แต่ผลงานของเธอกลับไม่โดดเด่นเท่าไหร่ เนื่องจากยังไม่เคยคว้าแชมป์รายการใดๆของแอลพีจีเอทัวร์มาครองได้เลย ที่ใกล้เคียงที่สุด คือ การคว้าอันดับ 7 ในรายการ เกีย คลาสสิค เมื่อปี 2012
     แม้ผลงานส่วนตัวจะไม่ดีนัก แต่เธอก็ยังมีโทรฟี่ในประเภททีม คือแชมป์ โซลไฮม์ คัพ ซึ่งเป็นการแข่งขันของทีมรวมดารากอล์ฟหญิงของยุโรป ปะทะกับ ทีมรวมดารากอล์ฟหญิงของสหรัฐ ซึ่งเธอก็ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์มาครองได้ 2 สมัย คือ ปี 2013 และ2017
      ถึงกระนั้นโปรวัย 30 ปี ก็ยังไม่ยอมแพ้ โดยเก็บประสบการณ์ในรายการต่างๆมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มรู้สไตล์การเล่นของตนเอง และปรับตัวเข้ากับการแข่งขันสนามต่างๆได้ดีมากขึ้น จนทำให้เชื่อว่าในปีนี้น่าจะถึงเวลาของโปรจากอังกฤษรายนี้เสียทีในการกระชากตำแหน่งแชมป์

3.มารีน่า อเล็กซ์
     โปรมือ 47 ของโลก และเจ้าของตำแหน่งดาวรุ่งแห่งปี 2013รายนี้ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นนับตั้งแต่เริ่มเทิร์นโปรเมื่อปี 2012 แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าใกล้บัลลังก์แชมป์ได้ โดยที่ใกล้เคียงที่สุดคือเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวจบในอันดับที่ 3 ของศึก ซีพี วีเมนส์ โอเพ่น
     อย่างไรก็ตามเมื่อปีที่ผ่านมานักกอล์ฟจากสหรัฐ โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในอาชีพด้วยการติด 1 ใน 10 อันดับแรกของการแข่งขัน 6 รายการจาก 25 ทัวร์นาเม้นท์ที่ลงแข่งขัน รวมถึงทำสถิติการตีแม่นยำอยู่ที่ 82.19% เลยทีเดียว
นอกจากนั้นแล้วเรื่องการกวาดเงินรางวัลเธอก็ทำได้ดีมาก โดยนับเฉพาะปี 2017 เธอได้อันดับ 27 ขณะที่ยอดรวมตลอดอาชีพเธออยู่ในอันดับ 65 ด้วยรายได้กว่า 1.3 ล้านดอลลาร์ (ราว 40.1 ล้านบาท) จนเป็นอีก 1 โปรที่ได้รับการจับตามองว่าจะสามารถเบียดนักกอล์ฟชื่อดังคนอื่นๆขึ้นมาคว้าแชมป์แรกในอาชีพ

4.แองเจิล ยิน
     ตำแหน่งโปรดาวรุ่งแห่งปี 2017 คงการันตีฟอร์มอันยอดเยี่ยมของโปรรายนี้ได้เป็นอย่างดี โดยถึงแม้ว่าเธอจะเพิ่งเทิร์นโปรเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา แต่ฝีไม้ลายมือ และความนิ่งของนักกอล์ฟวัย 19 ปี ถือว่าไม่ธรรมดาจนได้รับการจับตามองอย่างมากจากสื่อทั่วโลก
     สำหรับปีที่แล้วถือเป็นปีแจ้งเกิดของ ยิน อย่างแท้จริง เนื่องจากเธอสามารถจบใน 10 อันดับแรกได้ถึง 5 รายการ นอกจากนั้นยังหยิบแชมป์แรกในระดับอาชีพของตนเองอย่างศึกยูโรเปียน ทัวร์ รายการ โอเมก้า ดูไบ เลดี้ คลาสสิค มาครองได้อีกด้วย
     โดยจุดเด่นของโปรจากสหรัฐรายนี้คือการตีที่ทรงพลัง และแม่นยำ ด้วยติดอันดับ 25 ของนักกีฬาหญิงที่พัตต์แม่นที่สุดเมื่อปีที่แล้ว ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้นจึงไม่น่าแปลกใจหากในปีนี้เธอจะระเบิดฟอร์มเทพได้อีกครั้ง จนสามารถคว้าแชมป์แรกในระดับแอลพีจีเอรายการใดรายหนึ่ง

5.เนลลี่ คอร์ด้า
      อีกหนึ่งดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองเช่นเดียวกับ ยิน เนื่องจากเธอเพิ่งเทิร์นโปรเมื่อปี 2016 เหมือนกัน และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเธอจบใน 10 อันดับแรกของการแข่งขันระดับ แอลพีจีเอ 5 รายการจาก 23 ทัวร์นาเม้นท์ที่ลงเล่น และผลงานที่ดีที่สุดคือการจบอันดับ 5 ในศึก เพียว ซิลล์ บาฮามาส แอลพีจีเอ คลาสสิค ซึ่งเป็นการแข่งขันแรกของปี
       ส่วนจุดแข็งของเธอคือการคัมแบ็กกลับมาในวันสุดท้าย โดยในหลายๆรายการเมื่อปี 2017 เธอออกสตาร์ทได้ไม่ดีนัก และผ่านการตัดตัวมาแบบกระท่อนกระแท่น แต่โปรมือ 71 โลกรายนี้สามารถรับมือกับสถานการณ์กดดันได้ดีเกินอายุ และมักจะเร่งผลงานได้ในตอนหลัง ซึ่งหากในปีนี้เธอสามารถแก้จุดอ่อนดังกล่าวได้ เธอจะไปได้ไกลในอาชีพอย่างแน่นอน

     ชื่อที่กล่าวมาคือ 5 โปรสาวที่มีลุ้นในการคว้าแชมป์ในระดับแอลพีจีเอแรกของตนเองมาครองได้ในปีนี้ ซึ่งต้องมาดูกันว่าสุดท้ายแล้วพวกเธอจะประสบความสำเร็จตามที่ได้รับการคาดหมายไว้หรือไม่