สั่งขอวงจรปิด 7 ธนาคารที่คนร้ายสวมบัตร 'ณิชา' เปิดบัญชี

สั่งขอวงจรปิด 7 ธนาคารที่คนร้ายสวมบัตร 'ณิชา' เปิดบัญชี

"รอง ผบ.ตร. " สั่งตำรวจประสานขอวงจรปิดธนาคาร 7 แห่งที่คนร้ายสวมบัตร "ณิชา" เปิดบัญชีรับโอนเงิน

จากกรณีที่ น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ตกเป็นผู้เสียหาย เนื่องจากคนร้ายได้นำบัตรประจำตัวประชาชนของ น.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีธนาคาร ที่ใช้ในการโอนเงินเข้าออก จนนำไปสู่การออกหมายจับและดำเนินคดี ต้องติดคุก 3 วัน 2 คืน เมื่อได้ประกันตัวจึงมาเข้าแจ้งความขอความเป็นธรรมกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 มกราคม มีรายงานว่าสำหรับคดีนี้ทาง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนจากหลายภาคส่วนทั้งในส่วนของตำรวจภูธรภาค 6 (บช.ภ.6) ตำรวจภูธรจังหวัดตาก (ภ.จว.ตาก) กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) และ สภ.บ้านตาก โดยดำเนินการเป็นชุดคณะทำงาน เบื้องต้นได้วางแนวทางการสืบสวนออกเป็นสองส่วน ในส่วนแรกเป็นคดีฉ้อโกง สำหรับส่วนที่สองเป็นคดีสวมบัตรประชาชนแสดงตนเป็นบุคคลอื่นเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งสองส่วนนี้มีความเชื่อมโยงกันตามแนวทางการสืบสวน และผู้รับผิดชอบหลักได้มอบหมายให้กับตำรวจ บช.ภ.6 , ภ.จว.ตาก และ สภ.บ้านตาก เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนขยายผลหาความเชื่อมโยง ส่วน บก.ป. จะเป็นเพียงหน่วยสนับสนุนตามอำนาจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)

อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก ได้ประสานทางธนาคารทั้ง 7 แห่งเพื่อขอกล้องวงจรปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในส่วนนี้ธนาคารเองก็อยู่ในฐานะผู้เสียหาย เนื่องจากถูกคนร้ายหลอกลวงเปิดบัญชีธนาคารเช่นกัน

ด้าน พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผบก.ป. ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน และข้อมูลเอกสาร ก่อนที่ทางพนักงานสอบสวนจะไปยังธนาคารต่างๆ เพื่อประสานขอกล้องวงจรปิด คาดว่าจะดำเนินการได้ใน 2 วันนี้

ขณะที่ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิม ผบก.ป.กล่าวว่า ในส่วนของกองปราบฯนั้นจะทำหน้าที่ตรวจสอบว่า น.ส.ณิชา เกี่ยวข้องกับการไปเปิดบัญชีหรือไม่ เพื่อเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามที่ น.ส.ณิชา มาร้องขอให้ตรวจสอบเท่านั้น ก่อนจะนำข้อมูลและหลักฐานทั้งหมดส่งต่อไปยัง สภ.บ้านตาก จ.ตาก ที่เป็นเจ้าของคดี ในส่วนสำนวนคดีต้องถามจาก สภ.บ้านตาก เท่านั้น