วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (11 ม.ค.61)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (11 ม.ค.61)

ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้น หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเวลา 8 สัปดาห์

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ม.ค. 61 ปรับตัวลดลงสูงถึง 4.9 ล้านบาร์เรล โดยเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 8 สัปดาห์ ไปอยู่ที่ระดับ 419.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงเพียง 3.9 ล้านบาร์เรล ทางด้านปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล

+ นอกจากนี้ EIA รายงานว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐ ปรับตัวลดลง 290,000 บาร์เรลต่อวัน ไปอยู่ที่ระดับ 9.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัดในสหรัฐฯ

+ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังค่าเงินสกุลดอลลาร์ อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินในตะกร้าหลัก เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ประเทศจีนอาจจะชะลอหรือยุติการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งประเทศจีนเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รายใหญ่ที่สุดในโลก   

- อย่างไรก็ตาม EIA ได้เปิดเผยรายงานการคาดการณ์ว่า สหรัฐมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบไปเหนือระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในเดือน ก.พ. 61

ราคาน้ำมันเบนซิน  ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังประเทศจีนเตรียมเคร่งครัดการจัดเก็บภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมให้เข้มงวดมากขึ้น โดยจะมีผล 1 มี.ค. นี้

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการนำเข้าน้ำมันดีเซลในเอเชียปรับตัวลดลง ประกอบกับอุปทานค่อนข้างทรงตัว อย่างไรก็ตาม ราคาได้รับแรงหนุนหลังประเทศจีนเตรียมที่จะเคร่งครัดการจัดเก็บภาษีผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมโดยเริ่มต้นเดือน มี.ค. นี้ 

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

  • ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 59 - 64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 66 - 71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • จับตาสถานการณ์การประท้วงที่ประเทศอิหร่าน หลังประชาชนไม่พอใจกับการทำงานของรัฐบาล เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ และการปกครองของประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี และเหล่าผู้นำทางศาสนา ซึ่งเหตุการณ์นี้นำมาสู่การเข้าจับกุมผู้ประท้วงจำนวนหนึ่ง สร้างความไม่พอให้กับรัฐบาลสหรัฐ โดยทางรัฐบาลสหรัฐ ออกมาแถลงการณ์ประณามเหตุจับกุมดังกล่าวและสนับสนุนผู้ประท้วงชาวอิหร่านในการเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐาน และต่อต้านคอร์รัปชัน ทำให้หลายคนกังวลว่าเหตุการณ์นี้อาจนำไปสู่การคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน การประท้วงไม่ได้กระทบต่อการผลิต และการส่งออกน้ำมันแต่อย่างใด
  • ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากสหราชอาณาจักร และลิเบียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forties Pipeline System กำลังการขนส่ง 450,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาดำเนินการตามปกติ หลังพบรอยร้าว และต้องปิดซ่อมบำรุงตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ท่อขนส่งน้ำมันดิบในลิเบียที่ขนส่งน้ำมันดิบจากแหล่งผลิตน้ำมันดิบของบริษัท Waha Oil ไปยังท่าเรือ Es Sider สามารถกลับมาดำเนินการอีกครั้งเช่นกัน หลังจำเป็นต้องลดกำลังการขนส่งลงราว 70,000-100,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากถูกโจมตีโดยผู้ก่อความไม่สงบภายในประเทศ

-----------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)          

โทร.02-797-2999