กลต.ยันโบรกไทยให้บริการ 'บิทคอยน์ฟิวเจอร์ส' ได้

กลต.ยันโบรกไทยให้บริการ 'บิทคอยน์ฟิวเจอร์ส' ได้

สำนักงานก.ล.ต. ยัน "บริษัทหลักทรัพย์ไทย" ให้บริการเทรด Bitcoin Futures ในตลาดตปท.ได้

สำนักงานก.ล.ต. เผยแพร่เอกสาร เพื่ออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับบิทคอยน์ฟิวเจอร์ส โดยระบุว่า "bitcoin futures" ไม่ใช่ "bitcoin"

ก.ล.ต. ไม่ได้รับรองสถานะของ "บิทคอยน์" และ "บิทคอยน์" ไม่ใช่เงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แต่ "บิทคอยน์" เป็นทรัพย์สินที่สามารถเปลี่ยนมือได้ โดยประเทศไทยวันนี้ยังไม่มีการกำกับดูแลการซื้อขาย "บิทคอยน์"

"บิทคอยน์ฟิวเจอร์ส" คือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าซึ่งเปิดให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการเคลื่อนไหวของราคา "บิทคอยน์" แต่ตัวมันเองไม่ใช่ "บิทคอยน์" (เหมือน stock futures ไม่ใช่หุ้น)

"บิทคอยน์ฟิวเจอร์ส" ที่ออกโดย The Chicago Mercantile Exchange (CME) และ The CBOE Futures Exchange (CBOE) ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากทั้ง CME และ CBOE เป็นตลาดภายใต้กำกับของ Commodity Futures Trading Commission (US CFTC)

ทั้งนี้ US CFTC เป็นสมาชิกหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนสากล (International Organization of Securities Commission: IOSCO) และมี MOU ในการให้ความช่วยเหลือและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสมาชิก IOSCO ด้วยกัน รวมถึงกับ ก.ล.ต. ไทยด้วย

CME และ CBOE จึงเป็นตลาดที่ ธปท และ ก.ล.ต. เปิดให้ broker ไทยพาลูกค้าไปซื้อขายได้

แม้ว่า "บิทคอยน์ฟิวเจอร์ส" เป็นผลิตภัณฑ์ในตลาดชั้นนำที่อยู่ใต้กำกับดูแลขององค์กรกำกับดูแลที่ได้มาตรฐาน และเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนแสวงหาผลตอบแทน ขณะเดียวกันก็มีโอกาสขาดทุนเช่นกัน เนื่องจาก ความผันผวนของราคา "บิทคอยน์" ที่เป็นสินค้าอ้างอิง ทั้งรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราทด (leverage) ในตัว ทำให้อัตรากำไรขาดทุนสูงยิ่งกว่าของ "บิทคอยน์" และการต้องเตรียมเงินรองรับการถูกเรียกหลักประกันเพิ่มรายวัน

ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงต้องคำนึงถึงความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนด้วย หากไม่เข้าใจหรือไม่พร้อมก็ควรหลีกเลี่ยง และ broker ที่แนะนำลูกค้าไปลงทุนต้องคำนึงถึงฐานะทางการเงิน ความเข้าใจ และความสามารถในการรับความเสี่ยงของลูกค้าด้วย