MORNING CALL ACTION NOTES (10 ม.ค.61)

MORNING CALL ACTION NOTES (10 ม.ค.61)

ผันผวนในกรอบ

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน ผันผวนทั้งลบและบวก หนุนโดยกลุ่ม PETRO ENERG และ PROP จากน้ำมันกลับมาปรับตัวขึ้น ถูกหักล้างบางส่วนจากกลุ่ม BANK และ TRANS ในช่วงก่อนรายงานงบ ธพ. ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1795.21 จุด (+2.40 จุด) Volume 7.54 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -363.76 ลบ.  TFEX Net -8,577 สัญญา ตราสารหนี้ +13,256.63 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นขานรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มเติบโต โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเฮลธ์แคร์

+ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นหลังจากมีความกังวลว่าเหตุประท้วงในอิหร่าน และคาดว่าสต๊อกน้ำมันสหรับจะปรับตัวลง

+ยูโรสแตทเผยอัตราว่างงานในยูโรโซนลดลงสู่ 8.7% ในเดือนพ.ย. ต่ำสุดรอบเกือบ 9 ปี

+สภาผู้ส่งออกฯ คาดส่งออกไทยปี 61 โต 5.5% จากกว่า 10% ในปี 60

+เวิลด์แบงก์ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 61 สู่ระดับ 3.1% จาก 2.8%

+BOJ เล็งปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2561 สู่ 1.5-1.9% จากเดิมที่ 1.4%

- Fund Flow ต่างชาติพลิกกลับมาเป็นขายติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ราว 6.7 พันลบ. ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยสู่ 32.29  Bath/USD

- กองทุน LTF ครบกำหนดไถ่ถอนปีนี้รวม 4.5 หมื่นล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

ภาวะตลาดหุ้นไทยในวันนี้ได้รับแรงหนุนจากตลาดสหรัฐและตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซน รวมถึงการที่เวิลด์แบงก์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลก แต่นักลงทุนต่างชาติที่ยังขายอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยหลักที่กดดันดัชนีวันนี้คาด SET จะผันผวนในกรอบ 1,785-1,805 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- CPI LST UVAN ราคาน้ำมันปาล์มดิบ +6%YTD สู่ระดับ 2,597 ริงกิต/ตัน

- PTTEP PTTGC IRPC ราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับสูง ปิด 62.96 $/bbl

- STA UVAN ครม.ออกมาตรการแก้ปัญหาราคายาง-ปาล์มน้ำมัน

- BANPU ราคาถ่านหินสูงสุดในรอบ 13 เดือน 107$/Ton

- IVL หุ้นได้ประโยชน์จากการปฏิรูปภาษีสหรัฐ

- ERW ผ่านเกณฑ์ชิงดำบัดเจ็ต โฮเต็ล ในปั๊มปตท. (ที่มาฐานเศรษฐกิจ)

- หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TWPC JUBILE AMA D

หุ้นแนะนำพิเศษ

CPT Analyst Meeting (ราคาปิด 2.18 บาท)

  • ดำเนินธุรกิจ 1) ผลิตและจำหน่ายตู้ไฟฟ้าสำหรับเครื่องจักรและโรงงานอุตสาหกรรม และ 2) ธุรกิจรับเหมาและติดตั้งสายไฟฟ้าขนาดต่ำกว่า 115 KV โดยมีสัดส่วนรายได้ราว 75% และ 25% ตามลำดับ
  • การเติบโตในอนาคต 1) อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 3 (คาดแล้วเสร็จปี 62) เพื่อขยายกำลังการผลิตตู้ไฟฟ้าสู่ 14,400 ตู้ต่อปี(เพิ่มขึ้นเท่าตัว) 2) พร้อมประมูลงานติดตั้งระบบไฟฟ้าให้ SPP Hybrid 3)พร้อมประมูลงานระบบไฟฟ้าสถานีสูบน้ำและโรงงงานน้ำตาล
  • ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อธุรกิจในระยะยาวหลังจากโรงงานแห่งที่ 3 แล้วเสร็จในปี 62 ซึ่งจะทำการผลิตตู้ไฟฟ้าคุณภาพสูงได้ซึ่งหนุนให้ผลประกอบการจะยังไม่เติบโตอย่างโดดเด่น แต่เราคาดว่าปี 62 จะเป็นปีที่ผลประกอบการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

หุ้นมีข่าว   

MALEE Analyst Meeting (ราคาปิด 37.25 บาท Bloomberg Consensus 48.03 บาท)

·       ตั้งเป้าการเติบโตรายได้ปี 61 ที่ 30%YoY หลักๆมาจากธุรกิจตราสินค้าของบริษัทต่างประเทศ (Brand Export) จากการขยายตลาดไปสู่หลายประเทศเพื่อบ้านและในกลุ่ม SEA ทั้งสินค้าเดิมใหม่ อาทิ กัมพูชา อินโดนีเซีย (โดยบริษัทที่เกิดจากการ JV) และธุรกิจพัฒนาและผลิตตามสัญญาจ้างผลิตในประเทศ (CMG Domestic) จากการกลับมาจ้างผลิตของลูกค้ารายเดิมและเครื่องจักรใหม่ที่สร้างความหลากหลายทางสินค้าได้สูงขึ้นและลดต้นทุนดึงดูดลูกค้ารายใหม่

·       คาดว่าผลประกอบการปี 60 น่าจะเป็นฐานใหม่ของบริษัทหลังเผชิญปัญหาจาก Supply Chain น้ำมะพร้าวและการปรับปรุง Packaging น้ำผลไม้ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงกว่า 33% ตลอดทั้งปี 60 สะท้อนประเด็นลบไปมากแล้ว แต่ทั้งนี้ เป้าหมายการเติบโตของบริษัทดังกล่าวราว 1 ใน 3 จะมาจากยอดขายสินค้าใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงต้องติดตามความสำเร็จอย่างต่อเนื่องก่อน “ทยอยซื้อสะสม” ลงทุน

AMA (ราคาปิด 16.10 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 19.40 บาท)

·        จ่อรับเรือใหม่ 13,221 เดทเวทตันภายในวันที่ 23 ม.ค.นี้ และเล็งออกให้บริการ 1 มี.ค. 61 ดันรายได้ Q1 โตแกร่ง พร้อมเตรียมซื้อเรือเพิ่มอีก 2 ลำ หนุนการเติบโตในอนาคต (ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)

·        การเริ่มดำเนินการของเรือใหม่ ภายหลังการรับมอบเกินกว่า 1 เดือน อาจส่งให้บริษัทมีการรับรู้ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายบางส่วนเกิดขึ้นในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตามในงวด 1Q60 เป็นการ Operate ด้วยกองเรือที่ 10 ลำ ด้วยน้ำหนักบรรทุดรวมกว่า 8.2 หมื่น DWT มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 4.6 หมื่น DWT สะท้อนผลประกอบการที่น่าจะมีการเติบโตกระโดด YoY นอกจากนี้ แผนการซื้อเรือเพิ่มอีก 2 ลำภายหลังการเข้าซื้อแล้ว 1 ลำ นับเป็นส่วนเพิ่มต่อประมาณการของฝ่ายวิจัย จึงอาจเป็นประเด็นที่ส่งผลให้มีการปรับเพิ่มประมาณการปี 61 (เดิมคาดกำไร +36%YoY) จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

·        AOT เผยปริมาณผู้โดยสารช่วงปีใหม่โตเกือบ 7% ทำยอด 2.95 ล้านคน เที่ยวบินเพิ่มเกือบ 4% อยู่ที่ 17,200 เที่ยวบิน สนามบินสุวรรณภูมิ ครองแชมป์มีผู้ใช้บริการเพิ่ม 4.4% เที่ยวบินโต 4.2% (ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)