รื้อแล้ว! 'จังเกิ้ล เดอ คาเฟ่' ร้านกาแฟคร่อมลำน้ำยอดฮิต

รื้อแล้ว! 'จังเกิ้ล เดอ คาเฟ่' ร้านกาแฟคร่อมลำน้ำยอดฮิต

“จังเกิ้ล เดอ คาเฟ่” ร้านกาแฟบรรยากาศหลักล้าน ถูกสั่งรื้อแล้ว ส่วนของพื้นที่รุกป่า และคร่อมลำน้ำ 20 ตรว.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากในช่วง สัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อโซเชียลมีเดียได้มีการเผยแพร่ภาพของแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีลักษณะเป็นร้านกาแฟ บรรยากาศธรรมชาติ ทราบชื่อคือร้าน Jungle de Cafe (จังเกิ้ล เดอ คาเฟ่)อยู่ในพื้นที่ของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงผจญภัยของเอกชนที่ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ( 2 กิโลเมตรก่อนถึง ม่อนแจ่ม) ที่มีส่วนหนึ่งของร้านทำเป็นลานโล่งสำหรับนั่งพักผ่อน และถ่ายรูป ตั้งอยู่ติดลำธารธรรมชาติ และมีบางส่วนมีลักษณะเป็นน้ำตกขนาดย่อม ทั้ง 2 ฝากฝั่ง โดยมีสะพานข้ามลำห้วยเป็นของตนเอง มีความสวยงามอย่างมาก ทั้งยังมองเห็นกิจกรรมกีฬาแอดแวนเจอร์ ทั้งการห้อยโหนซิปไลน์ และเครื่องเล่นจังเกิ้ลโคลสเตอร์ ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน โดยมีคำโฆษณาว่า “ร้านกาแฟวิวน้ำตกสุดอลังการ นั่งชิลท่ามกลางธรรมชาติแบบฟินๆ ในราคากาแฟหลักสิบ รสชาติหลักร้อย วิวหลักล้าน” ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมากในแต่ละวัน

ขณะเดียวกันจากที่มีผู้มาเที่ยว และมีสื่อหลายช่องทางนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ บางส่วนก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความเหมาะสม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการรุกล้ำ และทำลายธรรมชาติหรือไม่ อย่างไร เนื่องจากค่อนข้างมีลักษณะที่รุกล้ำเข้าไปในลำธารธรรมชาติ และยื่นเข้าไปในพื้นที่ป่าอีกฝั่ง ที่เป็นพื้นที่ป่าสงวนแม่ริม และไม่น่าจะมีเอกสารสิทธิ์

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (9 ม.ค. 61) นายชัยแสง พัฒนศักดิ์ภิญโญ นายอำเภอแม่ริม พร้อมด้วยนายราเชนทร์ ภูมมะภูติ ป่าไม้จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) กรมป่าไม้, และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอแม่ริม รวมไปถึงตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ริม ทหารในสังกัด มทบ.33 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันตรวจสอบบริเวณร้านกาแฟจังเกิ้ล เดอ คาเฟ่ หลังจากที่ได้เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความเหมาะสม ดังกล่าว เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงว่า เป็นการรุกล้ำ สร้างสิ่งปลูกสร้างนอกเหนือจากพื้นที่ที่ทางผู้ประกอบการมีเอกสารสิทธิ์ และเป็นการทำลายธรรมชาติหรือไม่

โดยจากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า ส่วนของพื้นที่ร้านกาแฟดังกล่าวมีส่วนที่เพิ่งต่อเติมขึ้นมาใหม่ ตั้งอยู่ติดลำธาร และน้ำตกธรรมชาติ แต่ไม่ได้ยื่นลงไปในลำน้ำ แต่กลับมีการก่อสร้างพื้นที่ส่วนของฝั่งตรงข้ามบนเนินหินขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ให้นักท่องเที่ยวมานั่งพักผ่อน ที่เชื่อว่าเป็นการรุกล้ำพื้นที่ป่าสงวน ทั้งยังมีสะพานคร่อมลำน้ำ ซึ่งน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งหลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้มาตักเตือนก่อนหน้านี้ ในวันนี้ทางร้านดังกล่าว ก็ได้มีการทุบ รื้อสิ่งก่อสร้างในฝั่งตรงข้ามร้าน และมีการติดป้ายระบุว่า พื้นที่งดให้บริการ และกำลังรื้อถอน ทั้งจุดสะพานและสิ่งก่อสร้างฝั่งตรงข้าม ขณะที่ในส่วนของฝั่งร้านเดิม ยังเปิดให้บริการตารมปกติ และยังมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการอย่างหนาแน่นตลอดทั้งวัน

นายชัยแสง พัฒนศักดิ์ภิญโญ นายอำเภอแม่ริม เปิดเผยว่าหลังจากที่มีประเด็นทางโลกออนไลน์ เกี่ยวกับร้านกาแฟแห่งนี้ ที่ได้มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในลักษณะที่อาจจะเป็นการเข้าไปบุกรุก ยึดถือครอบครองปลูกสิ่งก่อสร้าง และทำประโยชน์เพื่อตนเอง หรือผู้อื่น อันเป็นการผิดพระราชบัญญัติ ป่าสงวนแห่งชาติ หรือการกระทำผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกัน การดำเนินการลงพื้นที่เพื่อเข้าทำการรังวัดพื้นที่ร้านกาแฟดังกล่าวโดยละเอียด ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ ทั้งนี้หากพบว่ามีการกระทำใดๆ ผิดกฎหมายจะดำเนินการตามกฎหมายทันที

โดยเบื้องต้น ได้มีการบันทึกการตรวจสอบ ตรวจยึด จับกุม และดำเนินการกล่าวหา บริษัทดังกล่าวในข้อหาห้ามมิให้บุคคลใด ยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใด อันเป็นการเสื่อมเสีย แก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่จำนวน 20 ตารางวา ตาม พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 แล้ว ซึ่งในส่วนอื่นจะได้มีการพิจารณาตรวจสอบต่อไป แต่เบื้องต้น ในด้านของเครื่องเล่นผาดโผน ตรวจสอบแล้วทราบว่าได้รับมาตรฐานแล้ว และสามารถให้บริการกิจการในส่วนอื่นที่ไม่เกี่ยวกับพื้นที่กล่าวหา ได้ตามปกติ

ด้านเจ้าของกิจการ เปิดเผยว่า ร้านกาแฟแห่งนี้ ได้มีการเปิดให้บริการมาได้กว่า 3 สัปดาห์แล้ว ซึ่งก็ได้การตอบรับจากประชาชน และนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยหลังจากที่มีกระแสทางโลกโซเชียล ทางร้านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งในวันนี้ได้เริ่มมีการรื้อถอนแล้วเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และให้ความร่วมมือเต็มที่ ในส่วนที่เจ้าหน้าที่ชี้ว่าผิด ซึ่งแต่เดิมทางผู้บริหารร้านเข้าใจผิดว่าอยู่ในพื้นที่กรรมสิทธิ์ของตน จึงได้มีการก่อสร้างดังกล่าว ขณะที่ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเข้ามาตรวจสอบ ทางผู้ประกอบการก็ยินดีที่จะต้อนรับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน และถ้าหากมีการตรวจสอบพบว่ามีจุดใดที่ที่มีการรุกล้ำ ทางร้านก็ยินดีที่จะดำเนินการรื้อถอนอย่างเร่งด่วนต่อไป