กระบะซิ่งชนตร.ดับคาสี่แยก ไม่มีน้ำใจช่วย-ขับหนีเร่งตามล่า

กระบะซิ่งชนตร.ดับคาสี่แยก ไม่มีน้ำใจช่วย-ขับหนีเร่งตามล่า

ตำรวจสุพรรณบุรี ลุยตามหากระบะตีนผี ซิ่งชนตร.ดับสยองคาสี่แยก ไม่มีน้ำใจช่วย-ขับหนีลอยนวล

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 มกราคม ร.ต.อ.ชนะศักดิ์ ภูเฮืองแก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุมีคนเสียชีวิต ที่ถนนสายสุพรรณบุรี-ชัยนาท หมู่ 1 ต.วังน้ำซับ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.เจษฎา พานิชวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) แพทย์เวร รพ.ศรีประจันต์ และมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุขึ้นชัยนาท พบศพ ด.ต.ชาญวิช แจ้งประจักษ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 281/7 หมู่ 3 ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี นอนหงายอยู่กลางถนนสภาพแขน ขาหัก เท้าซ้ายขาด มีแผลถลอกที่แขน ลำตัวและใบหน้า ห่างกันประมาณ 50 เมตรพบ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า สีน้ำเงิน ทะเบียน 1กฎ 6164 สุพรรณบุรี ล้มอยู่ริมถนนสภาพเครื่องยนต์แตก ด้านข้างพังยับ และมีชิ้นส่วนหน้ากระจังรถกระบะยี่ห้อนิสสัน ตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนรถคู่กรณี หลบหนี

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าด.ต.ชาญวิช เป็นผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราบ สภ.ดอนเจดีย์ แต่ไปช่วยราชการ ที่ สภ.เดิมบางนางบวช ก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่ จยย.ไปเยี่ยมญาติ ในเขต อ.ศรีประจันต์ และกำลังจะไปเข้าปฏิบัติหน้าที่ โดยขับออกมาจากทางแยกและกำลังข้ามเลน ทันใดนั้น มีรถกระบะยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ ไม่ทราบทะเบียน ขับมาด้วยความเร็วสูงโดยวิ่งอยู่เลนขวา พุ่งชนด้านข้าง จยย.อย่างแรง จนร่างกระเด็นไปพร้อม จยย.หลายตลบ ร่างกระแทกพื้นเสียชีวิตคาที่ ส่วนรถกระบะคู่กรณี หลังก่อเหตุไม่ได้จอดลงมาให้ความช่วยเหลือกลับเร่งเครื่องหนี

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆพบว่ารถคันก่อเหตุเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บต 6084 กรุงเทพมหานคร ที่กระบะท้ายติดตั้งโครงเหล็กลักษณะเป็นรถบรรทุก ขับมาจากตัวเมืองสุพรรณบุรี ไปทาง จ.ชัยนาท ผ่านทางจุดสามแยกศรีประจันต์ – ดอนเจดีย์ ถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางสี่แยก ผู้ตายได้ขี่จักรยานยนต์ มาชะลออยู่กลาง จุดกลับรถ เมื่อเห็นช่วงรถว่างจับขับข้ามโดยขับเลาะไปทางเลนขวา ทันใดนั้นรถกระบะคู่กรณี ซึ่งขับมาด้วยความเร็วสูง ไม่มีการหลักหลบ และไม่ชะลอความเร็วกลับพุ่งชนจักรยานยนต์ อย่างแรงจนเป็นเหตุให้ดาบตำรวจชาญวิช เสียชีวิตดังกล่าว หลังก่อเหตุรถคู่กรณีกลับไม่มีน้ำใจจอดรถลงมาดูตรงข้ามกลับเร่งเครื่องหนีไปทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนติดตามตัวคนขับมาดำเนินคดีต่อไป